เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี นายเจมส์ อายุ 51 ปี อาชีพรับขายฝากบ้าน ได้เข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน

โดย นายเจมส์ เล่าว่า ช่วงกลางปี 67 ที่ผ่านมา นายโดม อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนของตนคบกันมาเกือบ 30 ปี บอกกับตนว่าจะเอาบ้านเดี่ยวในเนื้อที่ 70 กว่าตารางวาในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่าบางกรวย มาขายฝากกับตนในจำนวนเงิน 4.5 ล้านบาท แล้วนายโดมยังได้บอกกับอีกว่า บ้านติดอยู่ที่กรมบังคับคดีขอยืมเงินจำนวน 150,000 บาทไปวิ่งเต้นเพื่อเอาบ้านออกมาแล้วจะมาทำสัญญาขายฝากบ้านให้กับตน

ซึ่งตนได้ให้เพื่อนยืมเงินสดไปจำนวน 150,000 บาทเพื่อที่จะเอาบ้านออกมาซึ่งนายโดมได้เขียนเช็คให้ตนเอาไว้ เป็นจำนวนเงิน 150,000 บาท และช่วงเดือน ก.ย.67 ตนได้นำเช็คไปขึ้นเงินกลับพบว่าเช็คเด้ง นำเช็คไปขึ้นเงินสามครั้งก็ขึ้นเงินไม่ได้เลย

ต่อมาตนได้ทวงถามเงินกับเพื่อนในส่วนที่ยืมไปและเรื่องบ้าน แต่นายโดมพูดบ่ายเบี่ยงมาตลอด ต่อมาตนได้ไปเช็คเรื่องบ้านที่จะนำมาขายฝากไว้กับตนที่กรมที่ดิน แต่ปรากฏว่าบ้านหลังดังกล่าวนายโดมไปทำสัญญาขายฝากกับคนอื่นไปแล้ว ตนจึงได้เรียกนายโดมมาทำสัญญาเพื่อคืนเงินจำนวนที่นายโดมยืมไป ซึ่งตกลงกันเอาไว้ผ่อนจ่ายเดือนละ 30,000 บาท แต่สุดท้ายก็ไม่จ่ายตามที่ตกลงกันเอาไว้อีก โทรไปก็ไม่รับสาย ส่งไลน์ไปก็อ่านแต่ไม่ตอบ ทุกวันนี้ติดต่อกับเพื่อนไม่ได้เลย ซึ่งตนอยากได้เงินคืนเพราะเงินบางส่วนตนก็ไปยืมเพื่อนมาเหมือนกันและต้องใช้จ่าย ตนมารู้ภายหลังว่าเพื่อนในกลุ่มโดนยืมเงินกันทั้งนั้น บางคนโดนยืมหลายแสนบาท

ตนอยากฝากถึงโดมว่าอย่าทำแบบนี้กับใครเขาเลย เที่ยวให้คนรอบตัวค้ำประกันเอาเงินคนอื่นมาใช้จ่ายเอาความสบายให้กับตัวเอง ทำความเดือดร้อนให้กับเพื่อนๆและเพื่อนบางคนก็ให้เงินยืมไปเหมือนกับตน สุดท้ายก็ไม่มีใครได้เงินคืนเลย

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำกูจะหายไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะเรียกตัวนายโดมมาสอบปากคำอีกครั้งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป