ผักแพวเป็นผักสมุนไพรพื้นบ้านของไทย มีชื่อเรียกท้องถิ่นหลากหลายชื่อได้แก่ ผักแพ้ว ผักไผ่ ผักแพรว ผักแจว พริกบ้า พริกม้า จันทร์แดง จันทร์โฉม หอมจันทร์ เป็นต้น มักพบได้ทั่วไปตามริมน้ำ มีลักษณะเป็นพืชล้มลุก ทอดเลื้อยไปตามพื้นดิน ใบเดี่ยวรูปหอก มีกลิ่นหอมฉุน ดอกเป็นช่อสีขาวนวลหรือชมพูม่วง

โดยผักแพวมี 2 ชนิดหลักๆ คือ ผักแพวแดง และผักแพวขาว แตกต่างกันเพียงสีของต้น แต่มีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรเหมือนกัน ถ้านำมาใช้เป็นยาสมุนไพรคู่กัน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษามากขึ้น

คนส่วนใหญ่นิยมนำยอดอ่อนและใบอ่อนมาบริโภคเป็นผักสด รวมทั้งนิยมนำมาแกงกับปลา เพื่อดับกลิ่นคาว เป็นพืชที่อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก และเป็นสมุนไพรที่มีส่วนช่วยในการลดความอ้วน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ

นอกจากนี้ผักแพวยังมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร ใช้รักษาโรคและอาการต่างๆ ได้แก่ ป้องกันและต่อต้านมะเร็ง ป้องกันโรคหัวใจ บำรุงประสาท ช่วยเจริญอาหาร ขับเหงื่อ รักษาปอด แก้ไอ แก้หอบหืด ช่วยในการขับถ่าย รักษาโรคกระเพาะ แก้ท้องเสีย รักษาริดสีดวงทวาร ขับปัสสาวะ เป็นต้น

ประโยชน์ของผักแพว

– รสเผ็ดของผักแพวช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันในเลือด เหมาะเป็นผักสมุนไพรลดความอ้วนได้โดยไม่ขาดสารอาหาร เพราะอุดมไปด้วยเส้นใยและวิตามิน แต่ต้องรับประทานในปริมาณที่มากพอหรือวันละไม่น้อยกว่า 3 ขีด

– ผักแพวมีวิตามินเอสูง จึงช่วยบำรุงและรักษาสายตาได้เป็นอย่างดี โดยมีวิตามินเอสูงถึง 8,112 หน่วยสากล ในขณะที่อีกข้อมูลระบุว่ามีมากถึง 13,750 มิลลิกรัม

– ผักแพวเป็นผักที่ติดอันดับ 8 ของผักที่มีวิตามินซีสูงสุด โดยมีวิตามินซี 115 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม

– ผักแพวมีแคลเซียมสูงถึง 390 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม จึงช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงได้เป็นอย่างดี

– ผักแพวมีธาตุเหล็กสูงสุดติด 1 ใน 5 อันดับของผักที่มีธาตุเหล็กสูง

– ยอดอ่อนและใบอ่อนใช้ประกอบอาหาร ใช้รับประทานเป็นผักสด หรือใช้แกล้มกับอาหารที่มีรสจัด ใช้เป็นเครื่องเคียงของอาหารอีสาน อาหารเหนือ อาหารเวียดนาม หรือนำมาหั่นเป็นฝอย ใช้คลุกเป็นเครื่องปรุงสดประกอบอาหารประเภทลาบ ลู่ ตำซั่ว ก้อยกุ้งสด ข้าวยำ แกงส้ม เป็นต้น

– ใบผักแพวนำมาใช้แกงประเภทปลา เพื่อช่วยดับกลิ่นของเนื้อสัตว์หรือกลิ่นคาวปลาได้

การเลือกซื้อผักแพว ควรเลือกซื้อผักแพวสด หรือดูที่ความสดของใบเป็นหลัก ไม่เหี่ยวและเหลือง แต่ถ้ามีรอยกัดแทะของหนอนและแมลงบ้างก็ไม่เป็นไร ส่วนการเก็บรักษาผักแพวก็เหมือนกับผักทั่วๆ ไป คือเก็บใส่ในถุงพลาสติกแล้วปิดให้สนิท หรือจะเก็บใส่กล่องพลาสติกสำหรับเก็บผักก็ได้ แล้วนำไปแช่ตู้เย็นในช่องผัก

ข้อแนะนำและข้อควรระวัง

ไม่ควรรับประทานผักแพวมากจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้เกิดอาการแสบร้อนภายในช่องปาก คอ รวมถึงกระเพาะอาหาร อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดการระคายเคือง และแผลในกระเพาะอาหาร

ในการใช้ผักแพวเพื่อเป็นสมุนไพรควรระมัดระวังในการใช้ควรใช้ในปริมาณที่พอดีที่ระบุไว้ในตำรับตำรายาต่างๆ ไม่ควรใช้ในปริมาณที่มากจนเกินไป หรือ ใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจนเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หรือ ผู้ที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่อง ก่อนจะใช้ผักแพวเป็นสมุนไพรควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ

อ้างอิงข้อมูลจาก เว็บไซต์สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์