เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ม.ค. 68 ที่ ทำการเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี มารดาของ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 เดินทางนำหลักฐานมาปรึกษา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีลูกสาววัย 13 ปีถูกรุ่นพี่ในโรงเรียนล่อลวงไปมอมยา และถูกข่มขืน ภายหลังไม่สามารถติดต่อลูกได้ และอยู่ในสภาพหวาดผวาร่างกายอ่อนแอ เหตุเกิดบริเวณบ้านพักแห่งหนึ่ง ชุมชนเคหะทุ่งสองห้อง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.67 กลัวคดีไม่คืบหน้า
น.ส.เอ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ลูกสาวตนออกไปจากบ้านเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. เวลา 21.00 น. ลูกสาวบอกจะขอออกไปเล่นกับเพื่อน ช่วงแรกยังสามารถติดต่อได้ กระทั่งช่วงตี 2 ลูกบอกว่ากำลังจะกลับบ้าน จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อลูกได้ เมื่อออกตามหา ทางรุ่นพี่ของน้องบอกว่า ได้พาน้องไปที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเปิดเป็นบริษัท กระทั่งผ่านไป 2 วัน มีรุ่นพี่คนดังกล่าวได้รับสายโทรศัพท์ โดยรุ่นพี่บอกว่าน้องอยู่บ้านเพื่อนเก่า ให้แม่มารับหน่อยน้องดูอาการไม่ดี ซึ่งยายได้ไปรับน้องแต่พบว่าไม่มีสติ ไร้เรี่ยวแรง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงรีบพาไปส่ง รพ. โดย รพ.แจ้งว่าพบสารเสพติดในตัวน้องหลายชนิด ทั้งยาแก้ปวดชนิดรุนแรง กัญชา เฮโรอีน และพบว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศด้วย ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.กว่า 20 วัน เนื่องจากอาการไม่ดีขึ้น ปัจจุบันยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และเดินไม่ได้ จนถึงขณะนี้อาการยังไม่ดีขึ้น ตัวสั่น เห็นคนก็กลัว ร้องไห้ ตนจึงมาขอความช่วยเหลือกับทางเพจสายไหมต้องรอด เพื่อต้องการจับคนร้ายมาลงโทษ เมื่อสอบถามเหตุการณ์กับรุ่นพี่ที่พาไปอ้างว่าพาน้องเข้าไปเอาเครื่องสำอางที่บ้านหลังเกิดเหตุ และเมื่อตนสอบถามกับกลุ่มคนในบ้านหลังเกิดเหตุก็พูดไม่ตรงกับรุ่นพี่ด้วย ซึ่งรุ่นพี่ยังบอกว่าไม่ได้อยู่กับน้องตลอดเวลา พอปลุกน้องกลับบ้านน้องบอกลุกไม่ไหว ขอนอนพักก่อน และน้องมีอาการมึนเมา จากนั้นรุ่นพี่ได้กลับไปหาน้องอีกครั้ง พบว่าน้องไม่ได้สติ ทิ้งตัวพูดจาไม่รู้เรื่อง

แม่ผู้เสียหายพยายามสอบถามลูกสาวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้ชี้ภาพบุคคลต้องสงสัยที่อยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ โดยลูกสาวได้ชี้ไปยังชายคนหนึ่ง เป็นพ่อของรุ่นพี่ ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งให้เสพยา และการถูกล่วงละเมิดหรือไม่ รวมถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุมีการข่มขู่กับรุ่นพี่ที่พาน้องไปว่า ให้พูดตามสิ่งที่บอก ว่ารุ่นพี่อยู่กับน้องตลอดเวลา
แม่ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า ลูกตนรู้จักกับบ้านนี้ได้ไม่นาน เคยไปแต่ปกติจะยืนหน้าบ้าน แต่ไม่เข้าไปในบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้รุ่นพี่คนดังกล่าวได้เข้าไปสอบถามเหตุการณ์กับกลุ่มผู้ก่อเหตุและแอบบันทึกเสียง แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุบอกว่าห้ามไปบอกความจริงแม่เด็ก จากนั้นรุ่นพี่ถูกยึดมือถือไปลบคลิปเสียงออกทั้งหมด เท่าที่ตนทราบวันเกิดเหตุผู้ก่อเหตุอยู่กันประมาณ 3-4 คน มีทั้งอายุ 30 กว่าและเยาวชน 15 โดยฝั่งผู้ก่อเหตุพยายามโทรฯ ติดต่อตน และยาย สอบถามอาการน้องว่าเป็นอย่างไรบ้าง และเข้ามาเยี่ยมที่ รพ.ด้วย เมื่อตนสอบถามไป ทางกลุ่มผู้ก่อเหตุอ้างว่า มีรุ่นพี่อยู่กับน้องตลอดเวลา ไม่ต้องห่วง น้องแค่เมากัญชา ขณะที่ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้เรียกผู้ที่อยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุมาสอบปากคำ
ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า จะนำข้อมูลของผู้เสียหายทั้งหมด และประสานให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เร่งรวบรวมหลักฐานภายในบ้านที่เกิดเหตุให้ครบถ้วน เพื่อนำมาประกอบในสำนวน โดยผู้กำกับ สน.ทุ่งสองห้อง ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเข้าไปเก็บข้อมูล และเข้าตรวจค้นสถานที่ที่พาตัวน้องไป เพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับยาเสพติด โดยวันอังคารที่ 21 ม.ค. ทางพนักงานสอบสวน จะนัดสอบปากคำ ป.วิอาญาเด็กผู้เสียหายเพิ่มเติม โดยใช้พนักงานสอบสวนผู้หญิง เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดโดยเร็ว เนื่องจากเหตุการณ์เป็นภัยต่อสังคม และกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้เสียหายอย่างมาก.