เมื่อวันที่ 19 ม.ค.นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงอุตสาหกรรมเข้าไปดำเนินมาตรการคุมเข้มโรงงานผลิตน้ำตาล เพื่อป้องกันปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า เห็นด้วยกับการดำเนินนโยบายอย่างเข้มงวดของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ที่ดำเนินนโยบายให้โรงงานรับซื้อเฉพาะอ้อยสด ลดอ้อยไฟไหม้ จึงขอย้ำให้โรงงานช่วยประชาสัมพันธ์ชาวไร่อ้อยให้ทราบถึงผลเสียของการเผาอ้อยด้วย เพราะนอกจากจะทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 แล้ว การเผาอ้อยยังทำให้ความหวานของอ้อยลดลง และที่สำคัญขายไม่ได้ราคา อีกทั้งไม่ได้เงินอุดหนุนจากภาครัฐ ที่สนับสนุนเงินค่าตัดอ้อยสดและส่งผลเสียต่อหน้าดินในการเพาะปลูกฤดูกาลผลิตถัดไปด้วย
นายอัครเดช กล่าวต่อว่า ขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรจัดส่งอ้อยสดกับโรงงาน ผ่านการให้เงินสนับสนุนกับชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสด ที่จะมีการประกาศตัวเลขให้ชาวไร่อ้อยได้ทราบในเร็วนี้ ทั้งนี้ การเผาอ้อยจะส่งผลเสีย นอกจากก่อให้เกิดฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชน ยังทำให้อ้อยหวานน้อยลง น้ำหนักลดลง และส่งผลเสียต่อหน้าดินในการเพาะปลูกครั้งถัดไป ตนเองจึงเห็นด้วยกับนโยบายของนายเอกนัฏ พร้อมขอความร่วมมือชาวไร่อ้อยส่งอ้อยสดให้โรงงาน อย่าเผาอ้อย เพื่อป้องกันฝุ่น PM 2.5 เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชนและตัวเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเองด้วย.