สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ว่าติ๊กต็อกระงับให้บริการในอเมริกา เมื่อคืนเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่ากำหนดการที่กฎหมาย “แบนติ๊กต็อก” ของสภาคองเกรส จะมีผลบังคับใช้ประมาณ 2 ชั่วโมง คือเมื่อเข้าสู่วันที่ 19 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น
เมื่อผู้ใช้งานติ๊กต็อกในสหรัฐเข้าสู่แอปพลิเคชัน จะพบกับข้อความ “ขออภัย” ว่าติ๊กต็อกไม่สามารถให้บริการได้ ณ เวลานี้ เนื่องจากกฎหมายแบนของสหรัฐมีผลบังคับใช้ ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้งานจะไม่สามารถเข้าถึงบริการทั้งหมดของติ๊กต็อกได้ “อย่างน้อยในเวลานี้”
ทั้งนี้ ติ๊กต็อกมีความเสียใจที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ ซึ่งเป็นการกดดันให้บริษัทต้องระงับให้บริการ “ชั่วคราว” อย่างไรก็ตาม มีการระบุด้วยว่า ติ๊กต็อก “กำลังดำเนินการเพื่อฟื้นฟูระบบในสหรัฐ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
BREAKING: TikTok voluntarily shuts down in the U.S. as the divest-or-ban law is set to take effect. https://t.co/sObGIRKFw3 pic.twitter.com/KBakq1T58q
— CBS News (@CBSNews) January 19, 2025
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของติ๊กต็อกเกิดขึ้นไม่นาน หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวถึงสถานการณ์ของติ๊กต็อก ว่า “ความเป็นไปได้มากที่สุด” คือ การที่เขาจะมอบระยะเวลาผ่อนผันนาน 90 วัน ให้แก่แอปพลิเคชันดังกล่าว ในการยังคงออนไลน์ในประเทศได้ต่อไป แต่การที่คำสั่งจะมีผลได้นั้น ต้องรอให้เขาสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 20 ม.ค. นี้เสียก่อน
อนึ่ง สภาคองเกรสของสหรัฐ มีมติเมื่อเดือนเม.ย. 2567 ผ่านกฎหมาย “ปกป้องชาวอเมริกันจากศัตรูต่างชาติซึ่งควบคุมแอปพลิเคชัน” ที่เรียกกันว่า “กฎหมายแบนติ๊กต็อก” โดยสหรัฐอ้างความเชื่อมโยงทางความมั่นคง ระหว่างติ๊กต็อกกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน และกดดันให้บริษัทไบต์แดนซ์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปักกิ่งของจีน และเป็นเจ้าของติ๊กต็อก ต้องขายกิจการในสหรัฐ ภายในวันที่ 19 ม.ค.
แม้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามรับรองกฎหมายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวกล่าวว่า ให้การตัดสินในเรื่องนี้ ขึ้นอยู่กับทรัมป์เมื่อรับตำแหน่ง.
เครดิตภาพ : AFP