เมื่อวันที่ 18 ม.คน.ส.ดุจฤดี เพียวพงษ์ อายุ 45 ปีเจ้าของห้างทองไทยวิจารณ์ ตลาดคิวรถ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาเปิดเผยต่อสื่อเพื่ออยากให้เป็นวิทยาทาน เกรงว่าคนอื่นจะโดนหลอกจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในลักษณะอีกแบบหนึ่งซึ่งชาวบ้านทั่วไปอาจจะไหวตัวไม่ทัน

น.ส.ดจฤดี เล่าว่า วันนี้ได้มีลูกค้าเป็นหญิงเอาทองน้ำหนักประมาณบาทเศษ คิดเป็นเงินประมาณ 50,000 บาทมาขายที่ร้าน แต่เป็นลูกค้าที่ แปลกที่สุดคือมีท่าทางลุกลี้ลุกลนเหมือนหวั่นวิตกอะไรบางอย่าง ไม่ยอมพูดขอกระดาษกับปากกาจากทางร้านแล้วเขียนสื่อสารกัน

ใจความที่เขียนมาระบุว่า”ขายทองทั้งหมดเป็นเม็ดเงินโอนเข้าบัญชีเพื่อตรวจสอบสินทรัพย์มีไหม”จากนั้นตนได้สังเกตโทรศัพท์ของลูกค้าลักษณะเหมือนมีสายคุยอยู่เห็นว่ามาจาก สภ.ขอนแก่น จ.ขอนแก่นตนเองเริ่มเอะใจ จึงพยายามถ่วงเวลาและปฏิเสธการรับซื้อจนเวลาผ่านไปกว่า 30 นาที สุดท้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยอมวางสายไป

น.ส.ดุจฤดี กล่าวด้วยว่า หลังจากนั้นได้สอบถามนางสาวอารี พรมทอง อายุ 37 ปี ลูกค้าที่เอาทองมาขาย ได้รับคำตอบว่ามีคนโทรศัพท์มาบอกว่าติดคดีพร้อมส่งภาพหมายจับมาให้

จากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถามว่ามีเงินในบัญชีเท่าไหร่ ผู้เสียหายบอกว่ามี 400 บาท คนร้ายคือคอลเซ็นเตอร์บอกว่ามีทองหรือไม่ พอทราบว่ามีทองอยู่คอลเซ็นเตอร์ให้นำทองทั้งหมดไปขายที่ร้านทองแล้วโอนเข้าบัญชีเพื่อตรวจสอบ ที่สำคัญห้ามบอกสามีและห้ามบอกใครเด็ดขาดแม้กระทั่งร้านทอง ให้เขียนหนังสือสื่อสารกัน ทำให้ น.ส.อารี ไม่กล้าแม้แต่จะพูดกับร้านทอง

จึงอยากจะฝากแจ้งเตือนคนทั่วไปว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาหลากหลายรูปแบบแทบจะตามไม่ทัน โดยเฉพาะคนทั่วไปที่ไม่ค่อยดูข่าวสารอาจตกเป็นเหยื่อได้