จากสถานการณ์ไฟไหม้บ่อขยะผิดกฎหมายของเอกชน ที่ฝ่าฝืนคำสั่งของเทศบาลบางปู และลักลอบให้มีการนำเอาขยะอุตสาหกรรมและครัวเรือนมาทิ้งในที่ดินส่วนบุคคล ภายในซอยชำนิ ท้ายหมู่บ้านนครทอง ในตำบลท้ายบ้านใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ จนทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ตั้งแต่ช่วงตีสองของวันที่ 17 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา จนทำเกิดแสงเพลิงและกลุ่มควันสีดำจำนวนมาก ปกคลุมหลายหมู่บ้าน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนหลายร้อยครอบครัว ต่างพากันอพยพหนีตายไปอยู่ที่อื่น

แสงเพลิงยังคงแดงฉานเหนือบ่อขยะ เผาผลาญกว่า 20 ชม. ชาวบ้านอพยพหนีควันพิษ!

ล่าสุดเมื่อช่วงสายวันที่ 18 มกราคม 2568 ไฟยังคงคุกรุ่นและลุกลามลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง กินเวลานานกว่า 30 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าเร่งควบคุมไฟไม่ให้ลุกลามและรุนแรงมากไปกว่าเดิม ท่ามกลางอุปสรรคสำคัญคือการเข้าไปยังต้นตอของเพลิงไหม้ ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นในลักษณะบ่อน้ำและป่าปรือ ทำให้การจะนำเครื่องจักรกลหนัก อย่างเช่นรถแบ๊กโฮ เข้าไปจุดดังกล่าวของเจ้าหน้าที่นั้น ไม่สามารถเข้าไปได้ จึงกลายเป็นอุปสรรคสำคัญของทีมดับเพลิง ขณะที่การลงพื้นที่สำรวจในชุมชนของทีมข่าว พบว่ายังคงมีกลุ่มควันปกคลุมทั่วชุมชนอย่างเห็นได้ชัด หลายครอบครัวต้องปิดบ้าน ร้างเอาไว้ เพื่ออพยพหนีตายไปอยู่บ้านญาติที่อื่น บ้างไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ทางเทศบาลจัดเตรียมไว้

ขณะที่ภารกิจของเจ้าหน้าที่วันนี้ พบว่านอกจากนักผจญเพลิงจากเทศบาลบางปูและหน่วยงานข้างเคียงแล้ว ยังมีหน่วยบรรเทาสาธารณภัยทีมบรรเทาปราการ ซึ่งเป็นอาสาสมัครนักดับเพลิง ต่างเสียสละเวลากันเข้ามาช่วยกันสับเปลี่ยนกำลังพลในการดับไฟในครั้งนี้ นอกจากนั้น ยังมีเจ้าหน้าที่ทหารจากสำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพไทย เดินทางมาจากจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อร่วมกันวางแผนและส่งกำลังพลเข้าร่วมทีมปฏิบัติการในการดับไฟในครั้งนี้ โดยมีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นแม่งาน และจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องจักรกลหนัก เช่น เครื่องส่งน้ำระยะไกล รถแบ๊กโฮคอยาว โป๊ะเรือ ส่วนทางด้าน อบจ.สมุทรปราการ ระดมรถบรรทุกน้ำพ่นละอองฝอยมาติดตั้ง เพื่อพ่นละอองน้ำในพื้นที่ ลดการเกิดควันและมลพิษทางอากาศให้กับชุมชน

นายเอกลักษณ์ ศรีชมพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางปู เปิดเผยว่า หลังจากนี้ต้องมาวางแผนกันต่อว่า จะใช้แนวทางใดในการควบคุมเพลิง ถึงแม้ว่าล่าสุดสถานการณ์ของควันไฟจะดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะมีการใช้โดรนในการบินหาสแกนความร้อนในพื้นที่ เพื่อดูว่าจุดไหนยังมีความร้อนอยู่ใต้ดิน จากนั้นจะใช้รถแบ๊กโฮในการคุ้ยดัน หรือฉีดน้ำลดความร้อน ป้องกันการปะทุซ้ำ ส่วนต้นเพลิงหากวางโป๊ะสำเร็จ ก็จะนำรถแบ๊กโฮเข้าไปคุ้ยและดันกองขยะที่ติดไฟ ลงสู่น้ำของบ่อ ตอนนี้ให้ความสำคัญเรื่องการหยุดควันไฟให้ลดลงมากที่สุด เพราะส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งหากเครื่องไม้เครื่องมือมาครบและพร้อมที่จะลุย ก็คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกินสามวัน ในการดับให้สนิท ส่วนมาตรการเยียวยาผลกระทบต่อประชาชน ขณะนี้มีการตั้งวอร์รูมรับเรื่องและดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด