ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานเปิดคูหาไทย ภายในงาน International Green Week 2025 จัดขึ้นภายใต้ธีม “Agri-future: From Tradition to Sustainability” ว่า การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อนำเสนอการปรับตัวของไทยให้เข้ากับตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลง และนำเสนอวิสัยทัศน์ของรัฐบาลไทย ที่มุ่งเน้นการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ตลอดจนแสดงความเป็นเลิศของสินค้าเกษตรไทย เช่น ผลไม้สด ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และอาหารไทยดั้งเดิมที่ประยุกต์ในรูปแบบใหม่ สำหรับกิจกรรมภายในงานได้มีการจัดแสดงสินค้าโดยหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ กรมหม่อนไหม สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร และผู้ประกอบการภาคเอกชนกว่า 10 ราย เข้าร่วม

นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กล่าวว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้นำขบวนสินค้าเกษตรเมืองร้อนมูลค่าสูงของไทยเข้าร่วมงานประชาสัมพันธ์ในงาน IGW ในปีนี้ และยังเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางอุตสาหกรรมการเกษตรไทยในตลาดโลก ได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ อ.ต.ก. ได้คัดสรรสินค้าเกษตรมูลค่าสูงมาร่วมจัดแสดงและประชาสัมพันธ์ภายในงานจำนวนมาก ได้แก่ สับปะรดภูแล มะม่วงน้ำดอกไม้ แก้วมังกรแดง ขนุน เสาวรส มะพร้าวพร้อมรับประทาน นอกจากนี้ยังมีสินค้าเกษตรฯ ชนิดแปรรูป ได้แก่ สับปะรดอบแห้ง ลำไยอบแห้ง มะม่วงเขียวฟรีสดราย มะม่วงน้ำดอกไม้ฟรีสดราย และมะพร้าวอบกรอบ พร้อมทั้งจัดให้มีการเจรจาธุรกิจ เพื่อเพิ่มช่องทางและขยายตลาดให้แก่ผู้ประกอบการและเกษตรกร เชื่อว่าจะสามารถสร้างมูลค่าการเจรจาธุรกิจกว่า 20 ล้านบาท และจะสามารถสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยในเยอรมนีและชาวต่างชาติมาร่วม ชม ชิม ช้อป สินค้าเกษตรและอาหารคุณภาพพรีเมี่ยมใน งาน International Green Week (IGW) เบอร์ลิน 2025 ณ Messe Berlin ได้ตั้งแต่วันนี้ – 26 มกราคม 2568 นี้

“สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดเผยถึงภาพรวมสถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรของไทยกับโลกในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม – ตุลาคม 2567) พบว่า สินค้าเกษตรไทยยังคงโดดเด่นในตลาดโลก ซึ่งไทยและสหภาพยุโรปมีมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรระหว่างกันรวม 135,726 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.88 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น การส่งออกมูลค่า 89,397 ล้านบาท และการนำเข้า 46,329 ล้านบาท ทั้งนี้ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ ยางธรรมชาติ อาหารสุนัขหรือแมว ไก่ปรุงแต่ง (อาทิ แกงไก่ที่บรรจุกระป๋อง) ซอสปรุงแต่ง (อาทิ ซอสพริก น้ำปลา กะปิ) เนื้อหรือส่วนอื่นของสัตว์ซึ่งบริโภคได้ ใส่เกลือ แช่น้ำเกลือ แห้ง หรือรมควัน (อาทิ หนังหมูแห้ง) ดังนั้น ตนเชื่อว่า งาน IGW ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดโลกแล้ว ยังเป็นการผลักดันด้านการทูตเชิงเศรษฐกิจ หมายรวมถึงการเจรจาการค้าและการลงทุน อีกนัยหนึ่งด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของไทยได้อีกด้วย เนื่องจากโอกาสของสินค้าอาหารและเกษตรของไทยนั้น มีโอกาสมากในการเข้าไปทำตลาดในเยอรมนี รวมถึงประเทศใกล้เคืองอีกด้วย” นายปณิธาน กล่าว

นายปณิธาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมานั้น อ.ต.ก. ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการตลาดตามแนวนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการการส่งเสริมตลาดให้แก่สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์พรีเมียมอัตลักษณ์พื้นถิ่นไทย ที่มีความโดดเด่นและหลากหลายเพาะปลูกตามกระบวนการโมเดลเศรษฐกิจ BCG มาโดยตลอด เพื่อผลักดันการขยายตลาดเดิมและเพิ่มตลาดใหม่สำหรับสินค้าเกษตรเมืองร้อนมูลค่าสูงไปยังต่างประเทศ สนับสนุนและดำเนินธุรกิจภาคการเกษตรระหว่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขันให้แก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สถาบัญเกษตรกรและส่งเสริมให้สินค้าเกษตรเมืองร้อนมูลค่าสูงของไทยสามารถเข้าสู่ตลาดธุรกิจระดับโลกได้มากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
