กรณีการแพร่กระจายของ “ปลาหมอคางดำ” ซึ่งเป็นสัตว์น้ำต่างถิ่น หรือ เอเลี่ยนสปีชีส์ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรและทำลายห่วงโซ่ตามธรรมชาติของปลาพื้นถิ่นในไทย ที่ผ่านมามีความพยายามที่จะลดการขยายพันธุ์ของปลาสายพันธุ์นี้หลากหลายวิธีแต่ดูเหมือนว่าจำนวนของปลาหมอคางดำ กลับไม่ได้ลดลงเลย
เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ช่วงค่ำวานนี้ (17ม.ค.) ว่า มีเจ้าของบ่อเลี้ยงกุ้งธรรมชาติรายหนึ่งใน ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม กำลังวิดบ่อเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ เพื่อจับกุ้ง แต่พบว่ามีปลาหมอคางดำจำนวนมาก คาดว่าเป็นพันๆ โล ขอให้ไปช่วยทำข่าวเผยแพร่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับรู้ถึงความเสียหายและความเดือดร้อน เพราะปลาหมอคางดำยังคงระบาดหนักมาตลอด ไม่ได้ลดน้อยลงไปอย่างที่หน่วยงานของรัฐเข้ามาสร้างภาพตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

กระทั่งเช้าวันนี้ (18 ม.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรับแจ้งกลับมาอีกทีว่า ทางเจ้าของบ่อดังกล่าวไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ และไม่อนุญาตให้เข้าไปถ่ายภาพแต่อย่างใดแล้ว จึงเดินทางไปพบนายยุทธนา แซ่ลี้ อายุ 53 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งธรรมชาติประมาณ 700 ไร่ ในจำนวนนี้อยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ยี่สาร 250 ไร่ บอกด้วยสีหน้าเหมือนคนสิ้นหวังว่า ปลาหมอคางดำยังคงระบาดหนักอยู่ กินลูกกุ้งลูกปลา โดยเฉพาะกุ้งเหลือไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์ ที่ผ่านมาบ่อขนาด 200 ไร่ ปล่อยน้ำเข้าบ่อ 6-7 เดือนวิดบ่อครั้ง จะได้ปลาหมอคางดำประมาณ 10 ตัน หากปล่อยไว้นาน ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเป็น 20 ตัน ขายได้โลละ 4-5 บาท
ล่าสุดตนวิดบ่อช่วงเดือนตุลาคม 2567 บ่อ 200 ไร่ ได้ปลาหมอคางดำ 20 ตัน เยอะจนต้องใช้รถแบ๊กโฮยกปลาขึ้นจากบ่อ ส่วนกุ้งได้ไม่ถึง 50 กิโลกรัม ถือว่าน้อยมาก จากเดิมที่ควรจะได้ 200-300 กิโกรัม ก่อนหน้านี้ เคยมีหน่วยงานของรัฐเข้าไปหาชาวบ้าน พูดคุยจนชาวบ้านกลัวไม่กล้าให้ข่าวกันแล้ว แต่ตนขอให้ข่าวแบบกลางๆ ไม่ได้โจมตีใคร แต่ขอให้ผู้เกี่ยวข้องมาพูดคุยช่วยกันแก้ไขปัญหาเรื่องปลาหมอคางดำให้จบเสียที เพราะเป็นที่ทราบกันว่า ปลาหมอคางดำ ขยายพันธุ์เร็วมาก ตนทอดแหสุ่มหยิบปลาหมอคาดำขึ้นมา 1 ตัว ลองบีบปากปรากฏว่า ไข่ที่กำลังจะเป็นตัวทะลักออกมาจำนวนมาก

นายวัลลภ ขุนเจ๋ง ผู้เลี้ยงกุ้งธรรมชาติอีกราย กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ปลาหมอคางดำระบาดหนักกว่าเดิม ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เพราะปลาหมอคางดำเริ่มปรับตัว มีการหลบหลีกจมอยู่ใต้น้ำลึกประมาณ 1 คืบ ทำให้เห็นตัวยาก ถ้าสังเกตจริงๆ ในเวลาที่เหมาะสม จะเห็นเยอะมาก แต่ภาครัฐไม่ได้ดูเวลาปลาขึ้น แต่มาดูในเวลาราชการ จึงมองไม่เห็น และพอเริ่มเป็นข่าว หน่วยงานก็เข้ามาคุยทำให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนไม่กล้าให้ข่าว ไม่กล้าให้สัมภาษณ์ เหมือนบีบไปในตัว ล่าสุดก็เข้ามาหาชาวบ้านบางราย ก่อนหน้านักข่าวจะเข้ามาตามนัด ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าพูดอะไรมาก
เช่นวันนี้ที่นัดไว้ว่าจะมีปลาประมาณ 10 ตัน เขาก็ไม่ให้เข้าไปถ่ายภาพ กลัวบางอย่างที่ทำให้เดือดร้อน และยังมีข่าวว่าใครให้สัมภาษณ์เกินจริง จะมีการฟ้องกลับ เพราะกลัวชาวบ้านให้ข่าวแล้วชื่อเสียงจะเสียหาย ขณะที่หน่วยงานของรัฐกลับให้ข่าวว่ากำจัดจนเหลือน้อย แต่ข้อเท็จจริงยังระบาดหนักอยู่ ตนจึงขอให้เข้ามาแก้ปัญหาโดยด่วน เพราะขณะนี้ภาคตะวันออก ลงอ่าวคุ้งกระเบน จ.จันทบุรี ทางภาคใต้ไปถึง จ.สงขลา หวั่นจะลามไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ซึ่งหากออกไปประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศไทยอาจจะถูกเพื่อนบ้านฟ้อง ทำให้ต้องเอางบประมาณแผ่นดินไปจ่ายค่าชดเชยก็เป็นได้ จึงอยากให้ควบคุมกำจัดให้เร็วที่สุด

นายวัลลภ กล่าวด้วยว่า ถ้าไม่รีบกำจัดปลาหมอคางดำ จะเกิดวิกฤติทางอาหารแน่ ชาวบ้านจะไม่สามารถหาปลาธรรมชาติกินได้เลย ชาวบ้านต้องกินกุ้งถุง กุ้งกล่อง สัตว์ทะเล ต้องชื้อจากต่างประเทศ ขณะนี้ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก เพราะปลาหมอคางดำไม่ได้กินแต่กุ้งและสัตว์น้ำธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังกินโฉนด กินชีวิตคน กินอนาคตของบุตรหลานคนไทยที่ครอบครัวต้องสิ้นเนื้อประดาตัวจากอาชีพทำประมงที่ล่มสลาย ไม่มีเงินจะไปส่งเรียนหนังสือ ที่ผ่านมาเคยมีข่าวรัฐบาลอนุมัติงบ 450 ล้าน ลงมาแก้ไขปัญหา แต่จนบัดนี้ก็ยังเงียบอยู่ ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องนี้เลย