จากกรณีนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช หลายสมัย ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่าได้นัดเพื่อนๆ ไปรับประทานอาหารเที่ยงกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในโอกาสช่วงปีใหม่ โดยนายอภิสิทธิ์เผยจุดยื่นคัดค้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ พร้อมทั้งเสียดายว่าไร้พรรคหลักในการต่อสู้กับ “ระบอบทักษิณ”

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 68 นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ว่า บริหารพรรคตัวเองจนไม่มีพรรคให้อยู่ ยังจะมาเสียดายอะไร และป่านนี้ก็ยังไม่เลิกชอบเอาดีใส่ตัวโยนชั่วให้คนอื่นอีก ในแง่หนึ่งที่พูดเช่นนี้ย่อมเท่ากับดูถูกดูแคลนพรรคอื่นๆ รวมทั้งพรรคฝ่ายค้านด้วย ถ้าผมเป็นพรรคฝ่ายค้าน ผมคงโกรธนะ

ป.ล. ถ้าผมเป็นนายกฯ แล้วระหว่างที่ผมมีอำนาจ มีประชาชนถูกสังหารไปร่วมร้อยกลางเมือง ซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้หญิง คนชรารวมอยู่ด้วย และทั้งหมดปราศจากอาวุธ โดยไม่สามารถหาคนผิดมาลงโทษได้ ผมจะขอไปบวชโดยไม่สึก ไม่เผยอหน้าออกมาวิจารณ์อะไร เที่ยวเอาดีใส่ตัวให้คนเขาเบือนหน้าหนีอีก

ไม่เข้าใจว่า ทำไมคนบางคนถึงไม่เคยรู้สึกอาย หรือไม่มีสำนึกในความเป็นคนอะไรกับเขาบ้าง?