เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน พร้อมด้วย น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล และคณะ ได้เดินทางไปยังโมชาฟ Beit Hilkia ทางภาคกลางของประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2568 เพื่อพบหารือกับนาย Avi Dicter รมว.เกษตรและความมั่นคงทางอาหารของอิสราเอล รวมถึงได้เยี่ยมชมฟาร์ม Leafresh ซึ่งเป็นฟาร์มปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ พร้อมเยี่ยมแรงงานไทยที่ทำงานในฟาร์มดังกล่าว

จากนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายได้ประชุมหารือถึงการจัดส่งแรงงานไทยมาทำงานในภาคเกษตรในอิสราเอล โดยมีโควตาการจ้างแรงงานไทยในภาคเกษตรของอิสราเอลในปี 2568 มีจำนวน 13,000 อัตรา ซึ่งกระทรวงแรงงานพร้อมจัดส่ง การดูแลไม่ให้แรงงานไทยเข้าไปทำงานในพื้นที่เสี่ยงอันตรายในอิสราเอลในช่วงสงคราม และการดูแลสิทธิประโยชน์ของแรงงานไทยในอิสราเอลที่ได้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากสงคราม อีกทั้งได้พูดคุยถึงการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยที่ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในกาซา จำนวน 8 ราย (มีชีวิตอยู่ 6 ราย และเสียชีวิตแล้ว 2 ราย)

นอกจากนี้ รมว.เกษตรฯ ของอิสราเอล ได้นำนายพิพัฒน์และคณะ เดินทางไปคิบบุตซ์ Revadim ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเยี่ยมแรงงานไทย และชมแปลงเพาะปลูกการเกษตร ซึ่งมีการเพาะปลูกผลิตผลทางการเกษตรร่วมกับการติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) เพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากพื้นที่ และสร้างรายได้ให้กับเจ้าของฟาร์มจากการขายผลผลิตทางการเกษตรและไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์