หลังจาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พ้นจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ตามธรรมนูญโอลิมปิคไทย เนื่องจากเสียตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย โดยปัจจุบัน นายธรรมนูญ หวั่งหลี ในฐานะรองประธานคนที่ 1 ทำหน้าที่รักษาการประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ซึ่งคณะกรรมการโอลิมปิคฯ มีกำหนดประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งประธาน และคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ในเดือน มี.ค. 2568 นั้น
สำหรับ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารชุดปัจจุบัน ในวันที่ 22 ม.ค. นี้ ที่สำนักงานบ้านอัมพวัน เวลา 09.30 น. เพื่อกำหนดวันจัดประชุมใหญ่เดือน มี.ค. 68 โดยปัจจุบันมีแคนดิเดตที่เปิดตัวในการชิงเก้าอี้ประธานโอลิมปิคไทยคนใหม่ ที่เปิดตัวมาชัดเจนคือ “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย
ส่วน “บิ๊กสุชัย” นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ ที่มีกระแสว่า พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิค ชุดปัจจุบัน ทาบทามมาลงชิงเก้าอี้ เพื่อหวังรักษาฐานขั้วอำนาจเดิมของบ้านอัมพวันไว้ ยังไม่มีการยืนยันใด ๆ ออกมา
อีกคนที่น่าจับตามองเป็นพิเศษคือ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ และมีตำแหน่งบริหารกีฬาระดับนานาชาติมากมาย และยังเป็นสมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ชาวไทย ซึ่งเป็นองค์กรกีฬาสูงสุดที่ดูแล NOC หรือคณะกรรมการโอลิมปิกทั่วโลก แม้ว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนอย่างล้นหลามจากคนกีฬาเมืองไทย ให้ลงชิงตำแหน่ง แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการใด ๆ ออกมา
สำหรับกระบวนการเลือกประธานโอลิมปิคคนใหม่นั้น เริ่มจากสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ที่เป็นสมาชิกของคณะกรรมการโอลิมปิคทั้งหมด 37 สมาคม จะเสนอชื่อผู้แทนสมาคม เพื่อรับเลือกทำหน้าที่คณะกรรมการบริหารโอลิมปิค วาระใหม่
จากนั้น 37 สมาคมจะโหวตเลือก 23 คน จาก 37 คน มาทำหน้าที่เป็นกรรมการบริหาร รวมกับผู้แทนคณะกรรมการโอลิมปิกสากลชาวไทย (คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล) และตัวแทนนักกีฬาโอลิมปิกชาวไทย (ปัจจุบันคือ ชนาธิป ซ้อนขำ) รวมทั้งหมด 25 คน ต่อจากนั้น 37 สมาคมกีฬาสมาชิก จะโหวตเลือก “ผู้ทรงคุณวุฒิ” ในคณะกรรมการโอลิมปิค วาระใหม่ จำนวน 10 คน
เมื่อได้ผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มอีก 10 คนแล้ว รวมกับกรรมการบริหารชุดใหม่ 25 คน เป็นทั้งสิ้น 35 คน จะประชุมกันเพื่อจัดสรรตำแหน่งและเลือก “ผู้เหมาะสม” มาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคคนใหม่ ในกรณีที่มีผู้เสนอชื่อแข่งขันกันมากกว่า 1 คนขึ้นไป ผู้มีสิทธิออกเสียง 35 คน จะลงคะแนนเลือกตั้ง “แบบลับ” แล้วจึงนับคะแนน
สำหรับ 37 สมาคมกีฬาสมาชิกสามัญของคณะกรรมการโอลิมปิค ที่มีสิทธิลงคะแนนเสียง ประกอบด้วย ขี่ม้าโปโล, ตะกร้อ, สกีและสโนว์บอร์ด, ปัญจกีฬา, รักบี้, ยิงปืน, มวยสากล, บาสเกตบอล, กอล์ฟ, ฮอกกี้น้ำแข็ง, ฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้ง, แฮนด์บอล, เทควันโด, เรือพาย, ไตรกีฬา, เบสบอล, ขี่ม้า, ซอฟท์บอล, ฟันดาบ, มวยปล้ำ, ยกน้ำหนัก, แข่งเรือใบ, จักรยาน, เทเบิลเทนนิส, ลอนเทนนิส, โบว์ลิ่ง, ว่ายน้ำ, ยิงเป้าบิน, ยูโด, ฮอกกี้, ยิมนาสติก, ฟุตบอล, วอลเลย์บอล, แบดมินตัน, กรีฑา, ยิงธนู และปีนหน้าผา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามไปยังผู้บริหารหลายสมาคมกีฬา ต่างมีความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องการได้ประธานโอลิมปิคไทยคนใหม่ ที่มีคอนเนกชั่นระดับนานาชาติ เพราะปัจจุบันหลายสมาคมกีฬา ต้องการพัฒนาและยกระดับกีฬาของตัวเองไปสู่เวทีนานาชาติ โดยเฉพาะการผลักดันให้คีย์แมนของไทย ไปร่วมบริหารในองค์กีฬานานาชาติในชนิดกีฬานั้น ๆ ทั้งระดับอาเซียน, เอเชีย และระดับโลก รวมถึงการติดต่อโค้ชระดับโลกมาช่วยยกระดับนักกีฬาไทยทุกชนิดกีฬา
ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมกีฬาฟันดาบฯ เปิดเผยว่า ในฐานะ 1 โหวต ที่จะทำหน้าที่เพื่อเลือกประธานโอลิมปิคไทย ก็ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในการบริหารงานจากเดิมที่ผ่านมา โดยอยากให้ทุกสมาคมกีฬา คำนึงถึงการพัฒนากีฬาระดับนานาชาติของตัวเอง และคอนเนกชั่นในการผลักดันคนไทย ไปร่วมบริหารในเวทีนานาชาติ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของกีฬาตัวเอง.