เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 14 ม.ค. พ.ต.อ.สนอง แสงมณี สั่งการให้ พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม คุมตัว นายชาคิต บัวปลี หรือ “ชำนาญ” อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.168/2568 ลงวันที่ 13 ม.ค. 68 ข้อหา “กระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดแม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตามผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” โดยส่งฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก

รวบแล้ว ‘ชาคิต’ คนขับรถพา ‘จ่าเอ็ม’ หนี-อ้างไม่รู้ไปก่อคดีมา

โดยระหว่างที่ตำรวจนำตัวขึ้นรถ ผู้ต้องหามีสีหน้าอิดโรย ก่อนเปิดเผยว่า ไม่ทราบว่านายเอกลักษณ์ ไปก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต แต่ในวันเกิดเหตุ นายเอกลักษณ์ ได้โอนเงินมาให้ 4,500 บาท เพื่อเป็นค่าจ้างให้ไปส่งที่จุดผ่านแดน ให้เหตุผลว่าจะไปกินเลี้ยงหลังย้ายไปประจำการที่คลองหาด จ.สระแก้ว ซึ่งระหว่างเดินทาง นายเอกลักษณ์ ไม่ได้มีอาการตื่นตระหนกหรือมีพิรุธ โดยรถกระบะนั้นยืมเพื่อนมา ส่วนบริเวณจุดผ่านแดนที่ไปส่งนั้น ยืนยันไม่ทราบว่าห้ามเดินทางไปในยามวิกาล เพราะคิดว่าเป็นตลาด

อย่างไรก็ตาม สำหรับท้ายคำร้องฝากขัง พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เพราะเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และเนื่องจากในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ

พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอรายละเอียดเส้นทางการเงินเพื่อพิสูจน์ทราบว่า การเงินที่เกี่ยวข้องกับนายเอกลักษณ์ มือปืนในช่วงระหว่างก่อนและหลังเกิดเหตุวันเกิดเหตุ เชื่อมโยงกับผู้ใดบ้าง คาดว่าจะส่งมาภายใน 1-2 วันนี้

ทั้งนี้ จากการสอบสวนนายชาคิตให้การเฉพาะของตัวเองไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการก่อเหตุ บุคคลที่ช่วยเหลือนายเอกลักษณ์ พาหลบหนีขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่ามีบุคคลอื่นนอกจากนายชาคิต อีกหรือไม่ ถ้าพบจะดำเนินคดีเพิ่มเติม ส่วนรถกระบะพาหนะพานายเอกลักษณ์ หลบหนี เป็นของใครไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นรายละเอียดในสำนวนคดีอยู่ระหว่างขยายผล