เมื่อวันที่ 14 ม.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เผยความคืบหน้า Kick off ลงทะเบียนโครงการบ้านนี้ไม่เทรวม จูงใจประชาชนลดปริมาณขยะและลดค่าธรรมเนียมเหลือ 20 บาท ตามข้อบัญญัติใหม่ที่คาดว่าจะบังคับใช้กลางปีนี้ พร้อมระบุ ปัจจุบัน กทม.ชำระค่าใช้จ่ายเก็บขยะปีละ 7,000 ล้านบาท เก็บได้จริง 500 ล้านบาท หากทำให้เป็นศูนย์ได้จะมีเงินไปสนับสนุนงานอื่นๆ ซึ่งขยะที่เก็บได้วันละ 10,000 ตัน เกือบครึ่งเป็นประเภทเศษอาหาร

อย่างไรก็ตาม ในปี 67 จากการชักชวนผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าร่วม สามารถลดได้ร้อยละ 10 ปีนี้จึงขยายเพิ่มเติมไปยังผู้ที่อาศัยตามบ้านเรือน คอนโดฯ อพาร์ตเมนต์ ยอมรับไม่ใช่เรื่องง่ายกับการคัดแยกขยะเพราะเป็นเรื่องของนิสัย แต่อยากให้ทุกคนเริ่มลงมือ ผ่านการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชัน BKK Waste Pay

ด้านนายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของ กทม. เผยว่า ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ. …. น่าจะเริ่มใช้ได้ช่วงกลางปีหรือปลายปี ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าไว้ก่อนที่สำนักงานเขต เพื่อนำข้อมูลไประบุพิกัดบ้านที่จะร่วมคัดแยกขยะก่อนทิ้ง ซึ่งระบบจะมีทั้งลงทะเบียนแบบเดี่ยวสำหรับบ้าน และแบบกลุ่มสำหรับผู้ที่อยู่คอนโดฯ อพาร์ตเมนต์ ชุมชน

ทั้งนี้ หลังลงทะเบียนผ่านแอป ผู้เข้าร่วมต้องถ่ายภาพการคัดแยกอัปโหลดลงระบบ เพื่อให้มีการตรวจสอบว่าคัดแยกจริง โดยใช้ระบบ AI ทำหน้าที่ตรวจสอบภาพว่าเป็นการคัดลอกภาพผู้อื่นหรือไม่ นอกจากนี้จะมีการนำสัญลักษณ์สติกเกอร์ไปแสดงหน้าอาคารและแจกถุงขยะสีเขียวให้แก่ผู้ร่วม เพื่อนำไปแยกขยะเศษอาหาร และส่งต่อระบบจัดการของสำนักสิ่งแวดล้อมต่อไป

สำหรับขยะที่ขอความร่วมมือคัดแยกมี 4 ประเภท ประกอบด้วย ขยะเศษอาหาร ขยะรีไซเคิล ขยะอันตราย และขยะทั่วไป เช่น ซองขนม เศษผ้า แก้วกาแฟ ถุงแกง กล่องโฟม ถุงพลาสติก เป็นต้น.