ที่ผ่านมาคุณครูสอนเรื่องความยั่งยืน ให้คนรุ่นนี้มากน้อยแค่ไหน
ถ้าสังเกตให้ดี เด็ก ๆ ที่เกิดตั้งแต่ปี 2000 ถ้าได้คุณครูดี เรียนในสถานศึกษาที่เข้าใจเรื่องภาวะโลกเดือด อยู่ในครอบครัวที่ใส่ใจความยั่งยืน มีโอกาสเห็นการเปลี่ยนแปลงของโลกด้วยตัวเอง หรือผ่านสื่อดิจิทัลต่าง ๆ พวกเขาจะมีลักษณะที่แตกต่างชัดเจนจากผู้คนในศตวรรษที่ 20 พวกเขามักจะพกกระบอกนํ้าส่วนตัว ถือถุงผ้า เพื่อลดพลาสติกใช้ครั้งเดียว มักเดินทางด้วยรถสาธารณะ เช่นรถไฟฟ้า เดิน หรือขี่จักรยาน มักจะเลือกซื้อสินค้า Reuse Recycle รู้จักแยกขยะ และมักจะชอบทำงานจิตอาสา ช่วยเหลือสังคม เคารพสิทธิมนุษยชน และมีจำนวนมากที่สามารถคำนวณคาร์บอนที่เขาปลดปล่อยรายปีได้ และควบคุมไม่ให้เกิน 2 ตัน เราเห็นคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจความยั่งยืน เข้าใจ SDG ทั้ง 17 ข้อ ที่มีลักษณะแบบนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

25 ปีผ่านไปในศตวรรษที่ 21 เราทำสำเร็จหรือไม่
ในวงการศึกษา ที่มีทั้งข้าราชการของกระทรวงศึกษา กระทรวง อว. และกระทรวง พม. ที่ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนโดยตรง รวมถึงนักธุรกิจที่ลงมาช่วยผ่านงาน CSR และ Sustainability และเหล่าปราชญ์ชุมชน และคนที่ช่วยพัฒนาการศึกษานอกระบบ ต่างพูดกันว่าเราล้มเหลวเรื่องการศึกษา ไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่เป็นกันทั่วโลก เราน่าจะเปลี่ยนแปลงการศึกษาได้ดีกว่านี้มาก
สำหรับผมคิดว่า พวกเราพัฒนาการศึกษาไปไกลมากทีเดียว ถือว่าทำได้ดี ระดับยอดเยี่ยม ถ้าเราใช้มาตรฐานของ ศตวรรษ
ที่ 20 มาวัด แต่นี่ ศตวรรษที่ 21 แล้ว เป็นโลกของ Digital AI ซึ่งต่างจาก Analog อย่างสิ้นเชิง ถ้าวัดผลตามมาตรฐานของศตวรรษที่ 21 พวกเราถือว่าสอบตก

แล้วพวกเรา และเหล่าคุณครูควรจะปรับตัวอย่างไรให้ได้ดีกว่านี้
มันจะดีมากถ้าเราเริ่มจากการยอมรับความล้มเหลว โดยไม่โทษใคร ไม่ต้องคิดเปลี่ยนแปลงคนอื่น หรือเปลี่ยนแปลงระบบ เปลี่ยนแปลงกฎหมาย พ.ร.บ. แล้วหันมาเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงตัวเราเอง “คุณครู และคนในวงการการศึกษา” ด้วยการ “ระเบิดจากข้างใน”

สิ่งสำคัญที่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง
1. การเปลี่ยนแปลงชุดความคิด Mindset: อย่างแรกเราต้องยอมรับก่อนว่าเราเป็น Alien เป็นมนุษย์ต่างดาวของศตวรรษนี้ แต่เด็ก ๆ ที่เราสอนคือ Citizen ประชากรตัวจริง เราเคยเรียนรู้จากชุดความรู้ที่ถูกสอนมาในศตวรรษที่ 20 และสอนแบบเดิมมาเรื่อย ๆ รุ่นแล้วรุ่นเล่า มันอาจจะเคยสำเร็จในอดีต แต่วันนี้ วันที่โลกแปรปรวนสุดขั้วหลายสิ่งที่เราเคยรู้ได้ล้าสมัยไปแล้วเราต้องไม่เป็นนํ้าเต็มแก้ว ต้องปรับตัวเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ที่คุณครูชอบพูดว่า Life Long Learning เราจะต้องปรับเปลี่ยนจากการเป็นครู ไปเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ เป็นผู้สนับสนุนการเรียนรู้ เป็นผู้ให้คำปรึกษาเป็นโค้ช เป็นเพื่อนคู่คิดของเด็ก ๆ หรือเป็น Hybrid เปลี่ยนโหมดให้เหมาะกับการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ การเปลี่ยน Mindset นี่ยากที่สุด ถ้าเปลี่ยนวิธีคิดได้ ชีวิตและอนาคตก็จะเปลี่ยน
2. การพัฒนาทักษะใหม่ Skillset: ทักษะการเป็นครู ที่เน้นการสอนหน้ากระดานดำ ทำตัวเป็นต้นแบบ เป็นเบ้าหลอมให้เด็ก ๆ โตมาเหมือนกันเหมือนผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมได้เปลี่ยนไปแล้ว ในยุคดิจิทัลนี้การเรียนรู้สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการ และเป้าหมายของผู้เรียนรายบุคคล ที่มีเครื่องมือ Digital AI มาช่วย เด็กแต่ละคนสามารถเรียนรู้ตามความเร็วที่เหมาะสมกับเขา ไม่จำเป็นต้องเหมือน หรือเท่ากัน และการการเรียนรู้มิได้เป็นเส้นตรงอีกต่อไป ทักษะเดิมที่คุณครูเคยมี แตกต่างกันอย่างมากกับทักษะของ Influencer, Facilitator, Mentor, Coach หรือการเป็นเพื่อนคู่คิด ต้องมาฝึกฝนเรียนรู้กันใหม่ ถ้า Mindset เปลี่ยนแล้ว การพัฒนา Skillset ก็ไม่ยาก

3. การคิดค้นนวัตกรรมการเรียนรู้ใหม่ ๆ Toolset: พอคุณครูพัฒนา Skillset ใหม่ ๆ ไประยะหนึ่งจะตระหนักว่า กระดานดำ และห้องเรียนสี่เหลี่ยมแบบเดิม ๆ อาจจะไม่เหมาะกับการเรียนรู้สมัยใหม่ อาจจะต้องช่วยกันสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ใหม่ ๆ เช่นการเรียนผ่านสื่อดิจิทัลที่มีอยู่มากมาย การเรียนรู้ด้วยการเล่น Game Board การทำ Hackathon เพื่อเค้นความคิดสร้างสรรค์มาแก้ปัญหา การสร้างสถานการณ์จริงให้นักเรียนได้ทดลองเป็น Sandbox และประสบการณ์จริงจากชุมชน มีตัวอย่าง Toolset ดี ๆ ที่คนรุ่นใหม่ที่เป็น Edtech Startup ทางการศึกษา ได้พัฒนาไว้มากมาย สามารถสร้างความร่วมมือเพื่อต่อยอด ขยายผลได้เลย
เปลี่ยนสิ่งที่สำคัญ 3 สิ่งนี้ให้ได้ก่อน แล้วเรื่องอื่นจะตามมา เราต้องสอนเด็ก ๆ ให้คำนวณคาร์บอนให้เป็น และมีความรับผิดชอบควบคุมตัวเองไม่ให้ปลดปล่อยคาร์บอนเกิน 2 ตันต่อปีให้ได้ แค่นี้ก็เป็นจุดเริ่มของความยั่งยืนแล้ว
“วันครู” เป็นวันที่สำคัญ และ “คุณครู”เป็นบุคคลสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตของโลกนี้ให้ยั่งยืนได้ เปลี่ยนแปลงโลก ด้วยการ “ระเบิดจากข้างใน” เปลี่ยนความคิดชีวิตก็เปลี่ยน เปลี่ยนตัวเองได้ ลูกศิษย์ก็จะได้รับผลประโยชน์ ที่มีคุณครูเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ เป็น Change Maker ที่เป็นพลเมือง SDG ตัวอย่าง เป็นคุณครูที่ปลูกฝัง DNA ของความยั่งยืนให้ลูกศิษย์ จากรุ่นสู่รุ่น
ขอกราบคุณครูทุกท่าน ที่ทุ่มเทสอนพวกเรามาให้เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ มีความพอเพียง และเป็นผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้โลกใบนี้ยั่งยืน.
