นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นจากบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) หลังจากได้มอบหมายให้ปฏิบัติการบิน เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่ภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.67 และภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ตาก และแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.67 ว่า จากการร่วมมือกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อปฏิบัติการบินเฉพาะกิจครั้งนี้ ส่งผลให้เดือน ธ.ค.67 ความเข้มข้นของฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 3 ไมครอนลดลง คุณภาพอากาศมีแนวโน้มดีขึ้น โดยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งปัญหาฝุ่นลดลง

ด้านนายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. กล่าวว่า ปฏิบัติการบินเฉพาะกิจนี้เป็นการบินโปรยน้ำเย็น หรือน้ำแข็งแห้ง เพื่อลดอุณหภูมิช่วงชั้นบรรยากาศ ที่ระดับความสูง 3,000–10,000 ฟุต รัศมี 20 ตารางกิโลเมตรในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เขตเมืองที่มีประชาชนพักอาศัยอยู่หนาแน่น เพื่อทำการเจาะช่องชั้นบรรยากาศที่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่น PM 2.5 เพื่อให้ฝุ่นถูกระบายออกไป ทำให้ปริมาณฝุ่นลดลง โดย บวท. สนับสนุนภารกิจนี้ และอำนวยความสะดวกการดำเนินงานอย่างเต็มที่ทุกขั้นตอน ได้แก่ การร่วมวิเคราะห์ตรวจสอบสภาพอากาศ และวางแผนทำการบิน การบริหารจัดการห้วงอากาศ การประสานแจ้งออกประกาศผู้ทำการในอากาศ (NOTAM)

การให้บริการจราจรทางอากาศรองรับภารกิจ และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้กรมฝนหลวงฯ ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อปฏิบัติการบิน 3 แห่ง ในพื้นที่ภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ สนามบินค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี สนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง และ สนามบินหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 1 แห่ง คือ สนามบินตาก จ.ตาก โดยใช้อากาศยาน 11 ลำ ทำการบินอย่างต่อเนื่องไปจนกระทั่งปัญหาฝุ่นลดลง และจะสรุปผลการปฏิบัติการบินทั้งหมดต่อไป โดยภารกิจนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากกรุงเทพมหานคร และบริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ซ จำกัด ซึ่งได้มอบน้ำแข็งแห้งจำนวน 300 ตัน สำหรับปฏิบัติการบินลดฝุ่น นับเป็นความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เพื่อให้คุณภาพอากาศดีขึ้น.