เมื่อวันที่ 12 ม.ค. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบบรัฐบาล เวลา 13.00 น. นายกฯ จะเดินทางไปที่จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งและน้ำท่วมอย่างยั่งยืน ที่บริเวณบึงบอระเพ็ด ต.แควใหญ่ จ.นครสวรรค์ ซึ่งถือว่าเป็นจุดสำคัญของภาคกลาง ในการเป็นพื้นที่รับน้ำของแม่น้ำปิง-วัง-ยม-น่าน ที่มารวมกันที่ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เป็นแม่น้ำเจ้าพระยา และไหลลงสู่ภาคกลางและกรุงเทพมหานคร ซึ่งบึงบอระเพ็ดนี้มีความกว้างขวางมาก กินพื้นที่ในจังหวัดนครสวรรค์ถึง 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอชุมแสง และอำเภอท่าตะโก
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ นายกฯ เห็นว่าพื้นที่บึงบอระเพ็ดยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างจริงจังมานาน ซึ่งรัฐบาลตระหนักดีถึงนโยบายในการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมที่เป็นปัญหาซ้ำซากของประเทศไทยมานาน ซึ่งหากมีการปรับปรุงแก้ไขการขุดลอกแก้มลิง หรือ คู หนอง คลอง บึง ที่ตื้นเขินก็จะสามารถบริหารจัดการการรับน้ำหรือกักเก็บน้ำในช่วงหน้าแล้งหน้าฝนได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ นายกฯ จะเป็นประธานในพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ในโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชนในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ที่อาคารอเนกประสงค์ บึงบอระเพ็ด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เพื่อสนับสนุนตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ประชาชนมีพื้นที่อยู่อาศัยและทำกิน
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า จากนั้นนายกฯ จะเดินทางไปที่บริเวณประตูดำ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์ ต.แควใหญ่ อ.เมือง ซึ่งห่างออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำ และการขุดลอกพื้นที่กักเก็บน้ำที่บริเวณจุดดังกล่าว เนื่องจากเป็นจุดสำคัญที่จะรับน้ำจากแม่น้ำน่านที่มาจากภาคเหนือเข้าสู่บึงบอระเพ็ด ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ประชุมติดตามการแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งในช่วงก่อนปีใหม่ เห็นว่าจุดนี้หากรัฐบาลเร่งแก้ไขจะทำให้นโยบายในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งในพื้นที่ภาคกลางสำเร็จได้.