สืบเนื่องจากนโยบายภาครัฐจะลดฝุ่น PM 2.5 จึงมีมาตรการให้โรงงานน้ำตาลปรับคิวหีบอ้อยไฟไหม้ได้ไม่เกิน 25% ต่อวัน ซึ่งปกติจะมีรถเข้าคิวประจำวันหีบประมาณ 50-55% เป็นเหตุให้มีรถเข้าคิวรอหีบค้างลานถึง 125 คัน ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาหีบถึง 4 วัน จึงจะหมด ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย เพราะเป็นเหตุให้น้ำหนักลดลง คุณภาพอ้อยลดลงและรายได้ลดลงตามไปด้วย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ม.ค. นายสุเนตร วังกรานต์ นายกสมาคมส่งเสริมอาชีพการเกษตรสุพรรณบุรี และรองประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย จึงได้ทำหนังสือถึง นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สส.สุพรรณบุรี เขต2พรรคชาติไทยพัฒนา ให้เร่งช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ดังกล่าว เพราะโรงงานน้ำตาลสุพรรณ เป็นโรงงานขนาดเล็ก พื้นที่ปลูกอ้อยส่วนใหญ่อยู่ในเขตชลประทาน อ้อยมักจะล้มและเป็นแปลงขนาดเล็ก ไม่เหมาะที่จะใช้รถตัดอ้อย ประกอบกับแรงงานตัดอ้อยสดก็หายาก

นายสุเนตร กล่าวว่า ชาวไร่อ้อยไม่เห็นด้วยและจะคัดค้านระเบียบฉบับใหม่ของคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลที่กำลังจะประกาศใช้ระเบียบว่าด้วยการตัดและการส่งอ้อยให้แก่โรงงาน การตรวจสอบคุณภาพอ้อยและการรับอ้อยจากชาวไร่อ้อยหรือหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อย

ด้าน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องความเดือดร้อนแล้ว ตนในฐานะคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์สภาผู้แทนราษฏร จะได้เร่งนำเสนอเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาในวันที่ 16 มกราคม 2568 โดยเชิญประธานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล รวมทั้งหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงและหาแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยต่อไป