เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ออกมาให้สัมภาษณ์ เรียกร้องให้การไฟฟ้ายุติการจ่ายไฟไปประเทศเพื่อนบ้าน เพราะกลายเป็นว่าไปจ่ายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า การจ่ายไฟของการไฟฟ้าเป็นการทำสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ เราไม่ได้ส่งไฟโดยตรงไปให้กับคนที่ทำผิดกฎหมาย และเรามีนโยบายที่ชัดเจน ถ้าเราจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้าน แล้วพบว่าเขาทำในเรื่องที่ผิดกฎหมายกระทบต่อความมั่นคงของเรา เราก็จะตัดไฟทันที ตามมาด้วยการยกเลิกสัญญา ส่วนบริษัทคู่สัญญา เขาก็ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลเมียนมา และได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศ ของประเทศไทยด้วย
เมื่อถามว่า ทางนายรังสิมันต์ ยืนยันว่ากระทรวงมหาดไทย มีอำนาจในการตัดไฟและไม่จ่ายไฟเลย นายอนุทิน กล่าวยอมรับว่า ใช่ แต่บริษัทคู่สัญญาต้องทำผิดระเบียบหรือผิดสัญญาก่อน จะไปฟังใครโดยที่ข้อมูลหลักฐานก็ไม่มี มีแต่ความเข้าใจของตัวเอง ความรู้สึกหรือการวิเคราะห์ของตัวเองทำไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องของสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ และเราก็ไม่ได้ส่งไฟฟ้าไปที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือแหล่งผลิตยาเสพติด เราไม่เคยทำ ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยก็ตรวจสอบเรื่องนี้มาตลอด แล้วก็ตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงด้วย และการที่เราจะส่งไฟฟ้าไปประเทศเพื่อนบ้านได้ เราก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานความมั่นคง เราไม่ได้ไปขายใครมั่วๆ และถ้าเขาทำผิดกฎหมาย ผิดสัญญาเมื่อไหร่ เราก็จัดการยุติการจ่ายกระแสไฟฟ้า
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ รมว.มหาดไทยได้ไปตอบกระทู้นายรังสิมันต์ และยืนยันไปว่า ยังไม่ได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง อาจจะเป็นความห่วงใยของเขา เราก็รับฟังและจะไม่ทำให้มันเกิดขึ้น คนที่จะต้องแจ้งมาให้เราตัดกระแสไฟฟ้าต้องเป็นหน่วยงานความมั่นคง หรือต้องเป็นรัฐบาลของพม่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือพวกผลิตยาเสพติด ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกชนกลุ่มน้อย หรือพวกอะไรก็ตามที่อยู่แนวตะเข็บชายแดน มันไม่ใช่เป็นรัฐบาลกลาง เราไม่ได้เป็นคู่สัญญากับเขา และเราก็ไม่ได้สนับสนุนเขา ถ้ารัฐบาลกลาง บอกมาว่าให้หยุด เราก็ต้องหยุด หรือว่าหน่วยงานความมั่นคงของเรา พิสูจน์ทราบมาแล้วว่ามีการกระทำที่เอากระแสไฟฟ้าของเรา ไปทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย แจ้งมาให้เราหยุด เราก็หยุด แต่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ไม่ได้มีหน้าที่ไปตามถึงปลายทางว่าเขาใช้ไฟฟ้าอย่างไรบ้าง เราทำตามสัญญาของเรา และการที่เราจะทำสัญญาได้ เราได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานต่างๆ เหล่านี้อยู่แล้ว ไม่ใช่โยนอะไรมาที่กฟภ.อย่างเดียว ไม่ใช่เราก็มีหน้าที่ขายไฟฟ้าไป ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดน ถ้าเขาสืบทราบมาว่า กฟภ. ขายไฟเอาไปใช้ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย เขาก็ต้องแจ้งมาที่กระทรวงมหาดไทย เราก็จะแจ้งไปทางการไฟฟ้าให้ตัดการจ่ายไฟฟ้า มันมีขั้นตอนการดำเนินการอยู่แล้วหากเกิดสิ่งที่ผิดกฎหมายขึ้น.