จากกรณี ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ส่วนกลาง ลงติดตามปัญหาการก่อสร้างโครงการระบายน้ำในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำรวม 8 โครงการ งบประมาณ 545 ล้านบาท ของ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ที่ตลอดทั้งปี 2567 ได้ถูกประชาชนเครือข่ายภาคประชาสังคม องค์กรเอกชนทั้งจังหวัดกาฬสินธุ์ และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเรียกร้องให้ตรวจสอบ เพราะได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส กระทบต่อสวัสดิภาพความเป็นอยู่ที่มั่นคงของประชาชน

โดย ดร.ฉลาด ขามช่วง ประธานคณะ กมธ.ป.ป.ช. สภา นายสุทัศน์ เงินหมื่น อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาประธาน กมธ.ป.ป.ช. พร้อม กมธ.-คณะที่ปรึกษา ได้ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบปัญหาและได้เรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามาชี้แจง ครั้งนั้น กมธ.ป.ป.ช. สภา มีมติให้เรียกตรวจสอบเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด ขณะที่ ผู้แทนกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ยืนยันว่าจะประกาศเวียน “ห้างหุ้นส่วนเฮงนำกิจ จำกัด” และ “ห้างหุ้นส่วนประชาพัฒน์จำกัด” ก่อนสิ้นเดือนมกราคมนี้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ส่วนกลาง รายงานว่า ชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และจุดที่มีโครงการก่อสร้างตลิ่งป้องกันน้ำท่วมอีก 8 โครงการ งบประมาณ 545 ล้านบาท ที่ถูกผู้รับเหมา “เฮงนำกิจ-ประชาพัฒน์” ทิ้งงานไปพร้อมซากปรักหักพัง และร่องรอยการก่อสร้างเป็นตราบาป ยังส่งผลกระทบให้ชาวเมืองน้ำดำ ต้องเผชิญกับความเดือดร้อนไม่หย่อนหยุด ความเจ็บปวดกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ มีการวิพากษ์วิจารณ์ไปถึงกระบวนการตรวจสอบติดตามปัญหาของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เลขาธิการ ป.ป.ช. อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง อธิบดีกรมบัญชีกลาง รวมไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ว่าถึงแม้จะมีความเคลื่อนไหวของประชาชนเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองตรวจสอบจนไปถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นที่พึ่งสุดท้าย เพราะนักการเมืองก็ยังไม่มีการขยับจัดส่งคนมาตรวจสอบเพื่อสร้างความสบาย
มีเพียง ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ป.ป.ช. นายสุทัศน์ เงินหมื่น อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาประธาน กมธ.ป.ป.ช. นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รอง ปธ.กมธ.ป.ป.ช. ติดตาม จึงทำให้ประชาชนเชื่อว่าการตรวจสอบอาจจะไม่มีความโปร่งใสในอนาคต ผู้ได้รับผลกระทบจึงยังคงรอคอยความชัดเจนในการแก้ปัญหา หลังเคยมีกระแสข่าวออกมาว่ากรมโยธาธิการฯ ได้ผู้รับเหมารายใหม่เข้ามาทำสัญญาแล้ว 2 โครงการ คือโครงการป้องกันน้ำท่วมเมืองกาฬสินธุ์ และโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่ง ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย เมื่อเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา

ด้าน นายธนกฤต ระวาดชัย นายก อบต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลเจ้าท่า อ.กมลาไสย พื้นที่ก่อสร้างตลิ่ง เฝ้าติดตาม ความคืบหน้าของการแก้ปัญหากับทางกรมโยธาฯ เจ้าของโครงการ ที่ผ่านมาทราบว่า กรมโยธาฯ จะได้ผู้รับเหมารายใหม่เข้ามาทำงานแล้วในช่วงปลายเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา จำนวน 2 โครงการ ทำให้ชาวบ้านดีใจ ที่จะได้เห็นการแก้ปัญหาจริงจัง ด้วยความเอาใจใส่ของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง แต่เวลาล่วงเลยมาถึงวันนี้ ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีผู้รับเหมารายใหม่มาทำงานต่อแต่อย่างใด จึงเกิดความสงสัย และได้แต่สอบถามกันไปมา
สุดท้ายก็คิดกันไปว่า ชาวกาฬสินธุ์ถูกหลอกอีกแล้ว ปัญหานี้ทุกคนเฝ้าแต่ชะเง้อคอยดูการแก้ปัญหา ที่ไม่มีความคืบหน้าอะไร เหมือนเป็นบทพิสูจน์ว่าผู้หลักผู้ใหญ่-ผู้มีอำนาจในการบริหารจัดการไม่มีความจริงใจที่จะบรรเทาปัญหาให้ประชาชน เมินความทุกข์ ความเจ็บปวด ไม่เห็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน เหมือนยังไม่รู้สึกเสียดายงบประมาณแผ่นดินที่เป็นเงินภาษีของพี่น้องประชาชน เสมือนแต่ซื้อเวลาไปวันๆ คอยแต่จะออกข่าวป้อนยาหอมให้ชาวบ้านหลงดีใจ ปัญหาที่คาราคาซังชาวบ้านยังคงมีความทุกข์มานานเกือบ 6 ปี เป็นแบบนี้ จะทำให้ชาวบ้านคลายทุกข์ได้อย่างไร ทุกวันนี้ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมผู้หลักผู้ใหญ่เหมือนไม่ทำอะไรเลย เกิดเรื่องเสียหายอย่างนี้ในบ้านเมืองเราได้ยังไง

“การเคลื่อนไหวเรียกร้องปัญหาก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร ยอมรับว่ามีผลกระทบหลายทาง และการติดตามตรวจสอบของชาวบ้าน พระ และผู้นำชุมชน มีความพยายามจะให้ชาวบ้านหยุดพูดให้ข่าว มีความพยายามที่จะข่มขู่พระและผู้นำชุมชน ผ่านมาทางตน รวมถึงตนก็โดนต่อว่าจากผู้มีอำนาจ กรณีนี้บอกตามตรงว่าพิษภัยของ 7 ชั่วโคตร ปัญหาไม่เกิดเฉพาะการก่อสร้างที่ไม่เสร็จ เป็นผลกระทบทุกโครงการ แต่ปัญหานี้ยังทำให้ประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวถูกรังแก ได้รับการดูแลที่ไม่เป็นธรรม กรณีนี้หากตนกลัวไม่เรียกร้องความเป็นธรรมร่วมกับชาวบ้านแล้วใครจะเรียกร้อง ตนคือนายก อบต.เจ้าท่า มาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนความสุขของพี่น้องประชาชนจะต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนต้องได้รับการแก้ไข หากตนนิ่งเฉยแล้วใครจะดูแล ดังนั้นในส่วนราชการที่ดูแลก็ควรที่จะเร่งรีบเข้ามาแก้ไขปัญหา เข้ามาปลอบใจพี่น้องประชาชนให้มีความสุข ถึงแม้ว่าโครงการนี้จะต้องล่าช้า แต่หากมีการติดตามด้วยการเอาใจใส่ด้วยความรัก ใช้พระคุณเป็นที่ตั้ง ปัญหาการร้องเรียนก็จะเบาบางลง“ นายก อบต.เจ้าท่า กล่าวในที่สุด
ด้านนางสุรรณญา อุทัยทิพย์ เจ้าของสวนอาหารบริเวณถนน 7 ชั่วโคตร ช่วงเชื่อมศูนย์ราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน สถานที่ตั้งบริเวณนี้ เป็นเส้นทางเชื่อมศูนย์ราชการ จ.กาฬสินธุ์ เป็นถนนเส้นตรงตัดผ่านมาจากตัวเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ถือว่ามีทำเลดีมาก จึงมาเปิดสวนอาหารบริการลูกค้าในช่วงปี 2565 ช่วงนั้นกิจการไปได้ดี จึงขอเช่าที่ข้างเคียงแปลงหนึ่งราคา 1 แสนบาท/ปี เพื่อขยายกิจการทำเป็นลานจอดรถ แต่เมื่อโครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง มาก่อสร้างมีการเปิดผิวถนน ก็เริ่มทำให้ลูกค้าไม่เข้าร้าน เวลาผ่านไปนานเข้า ก็พบว่าผู้รับเหมาทิ้งงาน ทำให้ผิวถนนที่สวยงามเป็นหลุม เป็นบ่อ ตลอดระยะทาง ทำให้ลูกค้าไม่เข้าร้านและต้องจ่ายค่าเช่าที่ดินทิ้งไปเฉยๆ ปีละ 1 แสนบาท

นอกจากนี้ ริมถนนหน้าร้านที่ผู้รับเหมาขุดทิ้งไว้ ยังมีน้ำขัง ลมโชยมาแต่ละทีมีกลิ่นเหม็นรบกวน รวมทั้งยังมีแท่งปูนกีดขวางจราจร เกิดอุบัติเหตุบ่อย ทุกวันนี้จึงไม่ค่อยมีลูกค้ามาเข้าร้าน รวมไปถึงผู้ประกอบการร้านค้าขาย หอพัก ห้องเช่า ร้านเสริมสวยต่างๆ ริมฝั่งถนนสายนี้ ที่ได้รับผลกระทบ ก็ต้องปิดกิจการลง ผู้ประกอบการหลายรายยังประกาศบ้านขาย ให้เช่า มันส่งผลกระทบไปหมด เกิดความเสียหายต่อสภาพจิตใจและเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง โดยไม่ได้รับการเยียวยาแต่อย่างใด
รายงานแจ้งว่า การเรียกร้องเพื่อขอความเป็นธรรมต่อปัญหาก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบและกลุ่มคหบดี พ่อค้า นักธุรกิจ ยังติดตามแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งจากองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบ ถึงแม้ขณะนี้จะมีเพียงการเคลื่อนไหวระหว่าง ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ กับ กรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ล่าสุด กรมโยธาฯ ออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชน แต่ก็ไม่ทำให้ชาวบ้านเกิดความสบายใจ เพราะยังไม่มีการชี้แจงอย่างเป็นทางการจากกรมโยธาฯ เป็นลายลักษณ์อักษร รวมถึงการได้รับการแก้ไขเยียวยาจากผู้บริหารจังหวัดกาฬสินธุ์ สิ่งที่ชาวบ้านทำได้ จึงมีเพียงการส่งเสียงเรียกร้องให้ผู้บริหารประเทศ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่กำกับดูแล กระทรวงมหาดไทย ได้ส่งคนดีคนจริงเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินด้วยหลักธรรมาภิบาล รักพี่น้องประชาชนเข้ามาแก้ไขปัญหานี้

แต่สิ่งที่ต้องการ หากเป็นไปได้ก็ขอเรียกร้องให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย พ่อของนายกรัฐมนตรี ที่ชาวกาฬสินธุ์ให้ความเคารพรัก ช่วยหาวิธีเร่งรัดแก้ไขปัญหานี้ให้ชาวกาฬสินธุ์ได้รับความเป็นธรรมด้วย นอกจากนี้ ชาวกาฬสินธุ์ยังติดตามการพิจารณาปัญหา 7 ชั่วโคตร ซึ่งปัญหานี้ได้เข้าไปสู่กระบวนการพิจารณาของ คณะ กมธ.ป.ป.ช. สภา มี ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ป.ป.ช. ที่คาดว่าจะมีการเรียก 2 ผู้รับเหมา ประกอบด้วย หจก.เฮงนำกิจ-หจก.ประชาพัฒน์ รวมถึงผู้ควบคุมงานมาชี้แจง ก่อนการพิจารณาเอกสารที่กรมโยธาฯ จะส่งให้ กมธ.ป.ป.ช. ได้ในวันที่ 24 มกราคมนี้.
