เมื่อวันที่ 8 ม.ค. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดกิจกรรม kick off การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด “สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง” เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัวเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด วันที่ 1 ก.พ. 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. โดยมีผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารสำนักงาน กกต.และสำนักงานกกต. ประจำจังหวัดในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก 26 จังหวัด ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก 26 จังหวัด นักศึกษาหลักสูตร พตส. และผู้แทนศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตยเข้าร่วมกิจกรรม พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวสื่อประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง อบจ. เป็นมาสคอต “หมูเด้ง”
นายอิทธิพร กล่าวว่า กกต.ตั้งเป้าผู้มาใช้สิทธิไม่น้อยกว่า 65% เพราะตัวเลขเฉลี่ยในการเลือกตั้ง อบจ. เมื่อปี 2563 อยู่ที่ 62.86% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอาจจะไม่สูง เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งทั่วไป แต่บางจังหวัดอย่างเช่น พัทลุง มีผู้มาใช้สิทธิจำนวน 78% สตูล 77% เชียงใหม่ 72% มีบางจังหวัดที่ผู้ออกมาใช้สิทธิไม่สูง เช่น นนทบุรี หรือ บุรีรัมย์อยู่ใน 50% จึงต้องขอความร่วมมือให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิให้มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งการกำหนดเลือกตั้งวันที่ 1 ก.พ.นี้ ยังเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิลดลงกว่าเป้า เพราะได้ประชาสัมพันธ์ ทั้งความพร้อมในการอำนวยความสะดวกทุกด้าน
เมื่อถามว่าถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบคลิปเสียงขนเงิน 20 ล้านที่จังหวัดปราจีนบุรี นายอิทธิพร กล่าวว่า อยู่ระหว่างดำเนินการของทีมงาน กกต. ยังไม่ถึงขั้นเสนอเข้าที่ประชุม กกต. คงต้องใช้เวลาอยู่บ้าง ส่วนจะเสร็จทันก่อนวันเลือกตั้งหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน และผู้ที่เกี่ยวข้องที่จะต้องเชิญมาสอบ จะไปเร่งรัดให้เสร็จก่อนเสร็จหลัง คงไม่เป็นผลดีต่อกระบวนการยุติธรรม แต่เชื่อว่า กกต.ปราจีนบุรี รวมถึงสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดอื่นๆ ที่มีเหตุเกิดขึ้นในลักษณะนี้ เมื่อมีข้อสรุปก็จะเสนอเรื่องพร้อมความเห็นมายัง กกต.เพื่อพิจารณาต่อไป

เมื่อถามต่อถึงเรื่องร้องเรียนขณะนี้ นายอิทธิพร กล่าวว่า ตัวเลขเรื่องร้องเรียนยังไม่ชัดเจนแต่ไม่เยอะ ขณะนี้มีประเด็นว่า เมื่อเราปิดรับสมัคร เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2568 ได้มีการประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งมีบางกรณีที่เราไม่ประกาศรายชื่อและมีผู้คัดค้านโดยในภาพรวมการเลือกตั้ง อบจ.ในครั้งนี้มีผู้สมัคร 7,007 คน เป็นผู้สมัครนายก อบจ. 192 คน ซึ่งกกต.ไม่ประกาศรายชื่อ 3 คน โดยผู้สมัครร้องคัดค้าน 2 คน และสมาชิก 6,815 คน ไม่ประกาศรายชื่อ 92 คน ร้องคัดค้าน 17 คน โดยในวันที่ 13-14 ม.ค.นี้ ทางสำนักงานก็จะเสนอให้ กกต. วินิจฉัยสิทธิสมัคร ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้รับการประกาศชื่อเพราะว่าถูกจำกัดสิทธิการสมัคร 2 ปี เนื่องจากไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและไม่แจ้งเหตุแห่งการไม่ไปใช้สิทธิ ตนจึงอยากเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิ เพราะหากไม่ไปใช้สิทธิแล้วไม่แจ้งเหตุ จะทำให้เสียสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งต่างๆ
ด้าน นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวตอนหนึ่งของการเสวนา “ความสำคัญของการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด” ว่า กกต.มีหน้าที่ในการจัดการเลือดตั้งให้ออกมาดี ทั้งกระบวนการให้เป็นที่ยอมรับ จริงๆ เราผ่านการเลือกตั้งมาหลายครั้งแล้วก็พยายามทำให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับ เรายึดหลักฟรีแอนด์แฟร์ และความโปร่งใส ฟรีคือความอิสระ เราไม่มีเจ้าพ่อในสนามเลือกตั้ง มีแต่ผู้สมัคร และเราเห็นผู้สมัครเท่ากัน แฟร์ คือตัวเราที่ทั้งเที่ยงและตรง ถ้าเห็นว่ากติกาไม่ดีก็อย่ามาโทษคนปฏิบัติ ให้ไปแก้กฎหมายเอง เพราะถ้ากฎหมายยังเป็นแบบเดิมจะเลือกตั้งกี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิม และความโปร่งใสคือเป็นเรื่องของกระบวนการที่โปร่งใส แต่สิ่งที่ถดถอยลงคือความชอบธรรม ซึ่งในที่นี้คือในเชิงปริมาณ คือผู้มาใช้สิทธิเลือกกตั้ง ดังนั้นเราจึงต้องรณรงค์ให้คนไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อให้มีผู้มาบริหารประเทศ

นายแสวง กล่าวอีกว่า กกต. เราอยากเห็นการเลือกตั้งมีความสุจริต ยุติธรรม และความโปร่งใส การเลือกตั้งครั้งนี้ทางการบริหารเป็นไปตามแผนแน่นอน แต่จะให้การเลือกตั้งออกมาดี เราต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย อย่างที่มีคนว่าเรามีการซื้อเสียงกันแล้ว กกต.ไปอยู่ไหน เราเองรับทราบแต่เราไม่เห็นไปจับทีหลัง อย่างไรก็ตาม เรายืนยันว่าในการบริหารจัดการแผนการเลือกตั้ง เราจะดูแลไปถึงวันที่ 1 ก.พ. ให้การเลือกกตั้งเป็นที่เรียบร้อยดี
การเลือกตั้งดีจะทำให้การเมืองดี 40 ปีที่ผ่านมาที่ว่ามีการปฏิรูปกฎหมาย แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้อยู่กับที่หรือถอยหลัง เพราะคนแพ้ไม่ยอมกัน และบ้านเราเอาการเมืองนำ ยังไม่มีคนแพ้ที่ดีหรือคนชนะที่ดี ถ้าจะบอกว่าการเลือกตั้งก็เหมือนเล่นฟุตบอล แต่เลือกตั้งไม่มีถ่ายทอดสดการเลือกตั้งอยู่ใต้ดินครึ่งหนึ่งบนดินครึ่งหนึ่ง เราเป็นกรรมการถ้าไร้เดียงสาก็เอาไม่อยู่ เพราะคนที่ลงมาแข่งขันเป็นผู้มีอำนาจ เป็นคนใหญ่คนโตของบ้านเมือง แต่เราที่เป็นกรรมการที่มีแต่กฎหมายและกติกา และถ้าคิดว่ากติกาไม่ดีอย่ามาว่าแต่กรรมการ แต่ให้ไปแก้กฎหมาย.