จากกรณีโลกออนไลน์ เผยแพร่ผู้เสียหายไปใช้บริการออนเซ็น ที่ร้านแห่ง ย่านทองหล่อ ใจกลางกรุงเทพฯ ก่อนถูกคนร้ายขโมยบัตรเครดิตไปรูด สูญเงินหลายแสนบาท ก่อนหน้านี้
ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ม.ค. พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เผยผลการจับกุมตัว น.ส.ธัญชนก ชุ่มชื่นจิตร อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 28/2568 ลงวันที่ 7 ม.ค. 2568 ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยผ่านสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์นั้น ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่น แทนการชำระด้วยเงินสด” โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้องเลขที่ 648 ชั้น 38 คอนโดฯ หรูแห่งหนึ่ง แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
พ.ต.อ.พันษา กล่าวต่ออีกว่า โดยพฤติการณ์ของคนร้ายจะทำทีเข้าไปเป็นลูกค้า เพื่อรับริสต์แบนด์ เข้าไปใช้บริการด้านใน จากนั้นคนร้ายจะนำริสต์แบนด์ออกไปให้ผู้ร่วมขบวน เพื่อก๊อบปี้ข้อมูลแถบแม่เหล็กริสต์แบนด์ จากนั้นกลับเข้ามาใช้บริการตามปกติ
โดยผู้ร่วมขบวนการจะทำการก๊อปปี้หรือโคลนนิ่งริสต์แบนด์อีกอันขึ้นมา เพื่อนำไปใช้ก่อเหตุเปิดตู้ล็อกเกอร์ในครั้งถัดไป โดยใช้เวลาโคลนนิ่งประมาณ 5-10 นาที ยกตัวอย่างเช่น คนร้ายได้ริสต์แบนด์ตู้หมายเลข 7 ก็จะโคลนนิ่งกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ล็อกเกอร์หมายเลข 7 ซึ่งจะเข้ามาขโมยทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ใช้ตู้ดังกล่าวในครั้งวันถัดไป ซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ เป็นคนขโมยบัตรเครดิตของผู้เสียหาย
ส่วนการนำเงินออกไป คนร้ายจะเปิดตู้ล็อกเกอร์นำบัตรเครดิตของผู้เสียหายมารูดกับเครื่องรูดบัตรเครดิตที่เช่ามา ที่สามารถรูดจำนวนเงินได้ตามต้องการ โดยจะสุ่มกดยอดสูง แล้วค่อยลดหลั่นลงมาตามยอดวงเงินของบัตร จากนั้นจะนำบัตรเครดิตเก็บไว้ในกระเป๋าของผู้เสียหายเช่นเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้เสียหายจะมาทราบภายหลังก็ตอนเห็นยอดแจ้งบัตรเครดิตหลายครั้ง หลังใช้บริการ
พฤติการณ์ของคนร้ายจะเลือกใช้สถานที่ร้านออนเซ็นเป็นเป้าหมายหลัก เพราะเป็นร้านที่มีลูกค้าที่มีฐานะและกำลังซื้อสูง และจุดติดตั้งล็อกเกอร์และจุดเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่มีกล้องวงจรปิด ซึ่งง่ายต่อการก่อเหตุ และคนร้ายรับสารภาพว่า เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ 4 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท โดยขณะนี้สามารถจับกุมได้ 1 คน และขยายผลผู้ร่วมขบวนการที่ออกหมายจับอีก 2 คน เป็นหญิงไทย 1 คน และชายชาวจีน 1 คน
นอกจากนี้ ยังฝากไปถึงผู้ประกอบการร้านออนเซ็น ฟิตเนส สปา ร้านนวด สนามกอล์ฟแบดมินตัน ที่มีการให้บริการล็อกเกอร์ ให้เลือกใช้ระบบล็อกแบบแน่นหนา หรือใช้ระบบล็อกแบบใส่รหัสหลายชั้น และคอยสังเกตผู้ใช้บริการที่มาใช้ถี่จนผิดปกติน่าสงสัย พร้อมแนะนำผู้ใช้บริการให้ตรวจสอบทรัพย์สินทุกครั้งหลังใช้บริการ ส่วนธนาคารจะต้องสังเกตบริการของลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตว่า หากมีการรูดซื้อของหลายครั้งในช่วงเวลาเดียวกันจนผิดปกติ ให้รีบแจ้งเตือนลูกค้า และควรตรวจสอบกลับกับเจ้าของบัตรเครดิต ก่อนจะโอนยอดไปยังบัญชีปลายทาง.