คุณพ่อชาวจีนคนหนึ่ง ตกเป็นหัวข้อในการถกเถียงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในประเทศ หลังจากที่มีการโพสต์เล่าเรื่องราวที่เขาโดนภรรยาจับได้ว่าใช้เทคโนโลยี “เอไอ” สอนการบ้านให้ลูกชายแทนที่จะสอนเอง
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2567 คุณแม่แซ่ “เจียง” จากครอบครัวชาวมณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน จับได้คาหนังคาเขาว่า สามีของเธอละเลยการสอนการบ้านให้ลูกชาย โดยยกหน้าที่ดังกล่าวให้ “เอไอ” ทำแทน ส่วนตัวเขานอนเล่นโทรศัพท์มือถืออย่างสบายใจ เมื่อเธอเข้าไปในห้องของลูกชาย ก็ทำให้เขาตกใจอย่างมาก
ลูกชายซึ่งเรียนอยู่ในชั้นประถมศึกษาบอกผู้เป็นแม่ว่า พ่อบอกให้เขาใช้เอไอช่วยทำการบ้านส่วนที่เขาทำไม่ได้
เด็กชายใช้เอไอแชตบอทชื่อว่า “คิมิ” ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัทมูนชอต เอไอจากปักกิ่ง ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่เดือน ต.ค. 2566 และโฆษณาว่าสามารถช่วยในการสะกดคำในภาษาจีน โดยสามารถเขียนข้อความได้มากถึง 2 ล้านตัวอักษร ในการพิมพ์ถามแต่ละครั้ง
เด็กชายถ่ายรูปโจทย์คณิตศาสตร์ในสมุดแบบฝึกหัดแล้วส่งให้เอไอแชตบอท ซึ่งให้คำตอบกลับมาทั้งผลลัพธ์และวิเคราะห์โจทย์ให้ด้วย
คุณแม่เจียงให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวฉีลู่อีฟนิง นิวส์ ว่า เธออุตส่าห์เชื่อใจสามีว่าเขาจะช่วยลูกชายสอนการบ้าน แต่เขากลับใช้เอไอทำงานแทนมาตลอดโดยที่เธอไม่รู้เรื่องเลย
ผู้สังเกตการณ์ออนไลน์รายหนึ่งกล่าวว่า “นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณปล่อยให้พ่อจอมขี้เกียจสอนการบ้านให้ลูกๆ”
หลังจากข่าวนี้ เผยแพร่ออกไปก็กลายเป็นหัวข้อในการวิจารณ์ของชาวเน็ตจีนทันที โดยความคิดเห็นแบ่งออกเป็นสองฝั่ง มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยต่อการใช้เอไอช่วยทำการบ้านหรือกิจกรรมอื่นๆ ในการศึกษา
“เอไอช่วยให้คนเรียนรู้ได้เร็วกว่าครูที่เป็นคนจริงๆ มันสามารถวิเคราะห์คำถามได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนกว่า และให้ตัวอย่างที่เหมาะสมและสมจริง” ชาวเน็ตรายหนึ่งกล่าวในเชิงสนับสนุนการใช้เอไอ
แต่ก็มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยแสดงความเห็นว่า “ถ้าเด็กเกิดติดนิสัยขอให้เอไอช่วยแก้ปัญหาทุกเรื่อง เขาก็จะไม่รู้จักคิดเอง มันไม่ใช่วิธีเรียนรู้ที่ดีสำหรับเด็กที่ไม่รู้จักควบคุมตัวเอง” และชาวเน็ตอีกรายก็เสริมว่า “เอไอไม่ได้ถูกต้องเสมอไป”
แต่สถานการณ์ในปัจจุบัน ผู้ปกครองชาวจีนหลายรายยอมรับว่า พวกเขาพึ่งพาเอไอเพื่อสอนการเรียนวิชาต่างๆ ให้ลูกๆ ของพวกเขา
คุณพ่อคนหนึ่งจากมณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีนเล่าว่า เขาใช้กล้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อคอยติดตามการทำการบ้านของลูกชายวัยประถมศึกษาของเขาจากระยะไกล ในขณะที่ใช้ “แชตจีพีที” ช่วยวิเคราะห์คำถามและแก้ไขคำตอบที่ผิดพลาด จากนั้นก็นำคำตอบที่เอไอส่งให้มาสรุป และส่งต่อไปยังลูกชายอีกที
ในแง่หนึ่ง แชตบอทเอไอถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาความกดดันของพ่อแม่ ซึ่งมักจะโดนครูขอให้ช่วยสอนการบ้านหรือติววิชาให้ลูกๆ ที่บ้าน
พ่อแม่หลายคนบ่นว่า ภาระเรื่องเรียนของลูกๆ ที่ทางโรงเรียนมอบหมายให้ ทำให้พวกเขาต้องทำงานหนักขึ้น นอกเหนือไปจากการทำงานประจำที่หนักอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม พวกเขายอมรับภาระเหล่านี้ เพื่อให้ลูกๆ ของตนมีความสามารถในการแข่งขันต่อไปในสังคม
ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่า พ่อแม่บางคนมีอาการหัวใจวาย ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองและเกิดอาการป่วยร้ายแรงอื่นๆ เนื่องจากเครียดเกินไปขณะช่วยลูกๆ ทำการบ้าน
ที่มา : scmp.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES