เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) น.ส.ปุน (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี พร้อมด้วย นายธี (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี และตัวแทนผู้เสียหายรายอื่นๆ รวม 17 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เริงศักดิ์ ชุ่มจิตติ์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกนายไพโรจน์ (สงวนนามสกุล) และพวกหลอกลงทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลจนสูญเงินรวมกว่า 34 ล้านบาท โดยนำหลักฐานเอกสารการโอนเงินและแชตสนทนามามอบให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา
น.ส.ปุน เปิดเผยว่า เมื่อปี 2564 ได้รู้จักกับนายไพโรจน์ ผ่านคนรู้จักก่อนจะถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่ อ้างรู้จักผู้ใหญ่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และพะเยา มีโควตาจำนวนมาก จึงตัดสินใจร่วมลงทุน ช่วง 2-3 เดือนแรก นายไพโรจน์สามารถจัดหาโควตาลอตเตอรี่มาให้ได้จริง ก่อนที่ต่อมาจะบอกว่าให้ตนลงทุนแค่เงินอย่างเดียวก็พอ ส่วนตัวลอตเตอรี่จะให้ทีมงานนำไปขาย ให้ รอรับส่วนแบ่งเงินกำไรจากการขายอย่างเดียวก็พอ โดยไม่ต้องทำอะไร
น.ส.ปุน กล่าวต่อว่า ช่วงแรกนายไพโรจน์จ่ายเงินกำไรให้จริง กระทั่งเดือน ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ถึงเริ่มบ่ายเบี่ยงอ้างธุรกิจติดปัญหาเรื่องการบริหารจนขาดทุน ก่อนจะเริ่มขาดหายการติดต่อ ตนและผู้เสียหายคนอื่นๆ จึงพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจขายลอตเตอรี่ของนายไพโรจน์ก็พบว่า จำนวนลอตเตอรี่ที่นายไพโรจน์ให้ลูกน้องนำมาวางขายตามสถานที่ต่างๆ ไม่ได้มีจำนวนมากพอหรือสอดคล้องกับจำนวนเงินที่ตนและผู้เสียหายคนอื่นๆ ร่วมลงทุน ซึ่งมีมากกว่าร้อยล้านบาท จึงเชื่อว่าถูกหลอก
“เฉพาะตนเองเพียงคนเดียวก็ลงทุนไปกว่า 10 ล้านบาท เช่นเดียวกับนายธี ที่ลงทุนไปกว่า 18 ล้านบาท ขณะที่ผู้เสียหายคนอื่นๆ ส่วนใหญ่ลงทุนตั้งแต่หลักล้านบาทขึ้นไป รวมๆ มีผู้เสียหายจากหลายๆ พื้นที่ภาคเหนือ มียอดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยล้านบาท บางคนก็ไม่กล้าแจ้งความเพราะเกรงกลัว หลังถูกข่มขู่” น.ส.ปุน กล่าว
น.ส.ปุน กล่าวอีกว่า ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะต้องกู้หนี้ยืมสินมาลงทุนจนหมดตัว ก่อนหน้าเคยนำเรื่องเข้าแจ้งความตามโรงพักท้องที่ต่างๆ แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อยู่เบื้องหลังธุรกิจดังกล่าว จึงตัดสินใจพากันมาเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจสอบสวนกลางในวันนี้
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป.