เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนพหลโยธิน นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ “เคนโด้ช่วยด้วย” นำทีมผู้เสียหาย บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด เข้ายื่นถอดถอน นายวิฑูรย์ เก่งงาน ออกจากทนายความ เพราะมีพฤติการณ์ข่มขู่ ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน โดย นายเกรียงไกรมาศ เปิดเผยว่า ผู้ที่เดินทางมาวันนี้ เป็นผู้เสียหายตัวจริงที่ไม่ได้รับความยุติธรรม ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา หลังมีการปล่อยข่าวออกมาว่าจะมีการฟ้องดำเนินคดีกับผู้เสียหาย และมีการพูดในทำนองที่ให้ผู้เสียหายทำการถอนแจ้งความ

ส่วนที่เดินทางมาที่สภาทนายความ เพราะมองว่า การกระทำของทนายความ เกินกว่าความเป็นทนายความแล้ว และทนายไม่ควรมีพฤติกรรมใช้สื่อเป็นเครื่องมือในการนำเสนอข่าว เพื่อทำให้ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัว และยังมีการอ้างหน่วยงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานใหญ่ในการดูแลคดีนี้ โดยอ้างในลักษณะที่จะมีการส่งข้อมูลของคนที่แจ้งความทั้งหมดให้ทนายความ เหมือนกับทนายความจะรู้ถึงสำนวน รู้ถึงรายชื่อของคนที่ไปแจ้งความ รวมถึงเบี่ยงเบนคดีความ และทุกครั้งที่พูดจะมีการสร้างเรื่องไม่เป็นความจริง ที่อ้างว่าผู้เสียหายได้ของไปแล้วขายไม่ได้เอง ขี้เกียจ ไม่ทำงานเอง

นายเกรียงไกรมาศ กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้ทางทนายวิฑูรย์ และแม่ทีมของฝั่ง ดิ ไอคอน ให้เปิดแอปพลิเคชัน “ปีกนก” เพื่อแสดงให้เห็นถึงรายได้ ยอดขาย ซึ่งทราบจากผู้เสียหายว่า แม่ทีมที่ตำแหน่งใหญ่ ๆ บางคนได้เป็นพันล้าน เป็นการชวนคนมาตายในธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า บัญชีของดิ ไอคอน ถูกอายัดไปตั้งแต่วันแรกแล้ว จึงอยากทราบว่า ทนายวิฑูรย์ได้รับเงินนอกระบบมาจากใครทั้งหมด ผ่านระบบภาษีถูกต้องหรือไม่ เพราะอย่างไร ทนายความก็ไม่ได้ทำงานแบบฟรี หากจะจ่ายเงินออกมาจากคุกก็คงไม่ได้

ส่วนที่เดินทางมาสภาทนายความวันนี้ ผู้เสียหายจะมายื่นเอาผิดมรรยาททนายความข้อ 18 ที่ระบุว่า ประกอบอาชีพ ดำเนินธุรกิจ หรือประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี หรือเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ ซึ่งสิ่งที่ทนายวิฑูรย์ทำ เช่น การออกมาข่มขู่ ให้สัมภาษณ์ทุกวัน ทุกอย่างผิดมรรยาททนายความทั้งหมด อีกทั้งทนายวิฑูรย์ ยังเคยเปิดชื่อย่อของตนเอง จนทำให้เกิดความเสียหาย เรื่องนี้ตนจะเดินหน้าเอาผิดทนายวิฑูรย์ด้วยใน 3 ความผิด ประกอบด้วย การหมิ่นประมาท, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และเรียกร้องเสียหายทางแพ่ง 50 ล้านบาท และจะแจ้งความเพิ่มกับ “บอสพอล” เป็นการยัดข้อหาทะลุเรือนจำเพิ่มอีก 2 ข้อหา คือ การละเมิด และ กฎหมาย PDPA เพราะนำข้อมูลของตนออกมาเปิดเผย.