สิ่งที่น่าสนใจคือการแข่งขันกันต่างหาก สนามที่กลายเป็นที่น่าสนใจในระดับประเทศขึ้นมาตอนนี้คือการแข่งเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ( อบจ.) อาจเป็นเพราะการกลับมาของ“ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี นายใหญ่พรรคเพื่อไทยที่ต้องการยึดฐานที่มั่นคืนโดยเริ่มจากท้องถิ่นและความพยายามชิงฐานท้องถิ่นของพรรคใหม่อย่างพรรคประชาชน
ประกอบกับการแข่งขันครั้งนี้ มีข้อวิจารณ์เกี่ยวกับ“พื้นที่ทับซ้อน”ของพรรคร่วมรัฐบาลอยู่มาก แม้ว่า “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยยืนยันว่า“พรรคไม่ส่งคนชิงเก้าอี้นายก อบจ.เพราะหัวหน้าพรรคเป็น รมว.มหาดไทย ต้องทำตัวเป็นกลาง” แต่ก็เหมือนจะลำบากใจอยู่บ้าง ตอนบ้านใหญ่ มุ่งเจริญพร คนใกล้ชิดภูมิใจไทยแข่งกันเองที่สุรินทร์
แม้จะไม่ออกตัวว่าแข่ง และว่า“รอสนามเลือกตั้ง สส.ทีเดียว” แต่ในหลายพื้นที่ ภูมิใจไทยก็ครองความนิยมอยู่ เป็น“บ้านใหญ่”ที่เพื่อไทยต้องการเจาะยาง จังหวัดที่น่าสนใจมากคือนครพนม ที่“สหายแสง”ศุภชัย โพธิ์สุ อดีต สส.ภูมิใจไทยถึงกับออกอาการโอดเมื่อทราบว่า “นายกฯอิ๊งค์”แพทองธาร ชินวัตร จะมาหาเสียงช่วย อนุชิต หงษาดี ผู้สมัครนายก อบจ. นครพนม พรรคเพื่อไทย เป็นการช่วยหาเสียงในฐานะหัวหน้าพรรคครั้งแรก วันที่ 12 ม.ค.นี้ และชนกับ “ขวัญ”ศุภพานี โพธิ์สุ ลูกสาวสหายแสงที่ลงสมัครอีกสมัย ภาคอีสานตอนบนยังได้อดีตนายกฯ ทักษิณ ช่วยหาเสียงให้ทั้งหนองคาย บึงกาฬ มหาสารคาม อาจเป็นว่าเพื่อไทยต้องการยึดพื้นที่อีสานตอนบนให้เด็ดขาดไปเลยก็ได้
อีกจังหวัดที่น่าสนใจคือเชียงราย ซึ่งถ้าไม่เดือดจริงทักษิณคงไม่ไป ว่ากันว่าเพื่อตี อบจ.บ้านใหญ่ที่ถูกมองว่าปันใจให้ภูมิใจไทย คือบ้านวันไชยธนวงศ์ ที่ส่ง“เจ๊นก อทิตาธร” ลงสนาม สู้กับ“สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช”บ้านใหญ่ฝั่งแม่จัน คราวนี้เหมือนเพื่อไทยต้องการรวมบ้านใหญ่เป็นปึกแผ่นผนึก เตชะธีราวัฒน์ จงสุทธนามณี ร่วมสู้
เชียงใหม่ก็เป็นอีกสนามที่น่าสนุก เพราะทักษิณถึงกับอ้อนขอเสียงให้“สว.ก๊อง” พิชัย เลิศพงศ์อดิศร ทำนองว่าอย่าให้อดีตนายกฯคนเชียงใหม่คนนี้ต้องอาย หลังจากเลือกตั้งใหญ่เกือบแพ้คาบ้าน สส.หายไปหลายเขต ขณะที่พรรคประชาชนก็หวังจะยึดท้องถิ่นเชียงใหม่ให้ได้ ทุ่มหาเสียงให้“พันธุ์อาจ ชัยรัตน์” ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ พรรคประชาชน อย่างหนัก ส่วนหนึ่งคงหวัง“เอาคืน”เรื่องตั้งรัฐบาล
ในส่วนพรรคประชาชนคาดหวังเก้าอี้นายก อบจ.ไว้ 4 จังหวัด ซึ่งพรรคประเมินว่า กระแสพรรคติดลมบนอยู่ คือ สมุทรปราการ เป็นจังหวัดที่มีความเป็นเขตเมือง เสียงสวิงได้สูง ก็ยังลุ้นเอาชนะบ้านใหญ่กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ที่ส่งสุนทร ปานแสงทอง อดีต รมช.เกษตรฯ ลงแข่งได้หรือไม่
สมุทรสาคร ผู้สมัครของพรรคสีส้ม “เฮียโต้”เชาวริน ชาญสายชล ก็เจอของแข็งคือ“ปลัดแต”อุดม ไกรวัฒนุสสรณ์ ตระกูลบ้านใหญ่ ส่วนระยองจากการที่พรรคส้มชนะเลือกตั้ง สส.ที่ผ่านมายกจังหวัด ก็คงจะมีลุ้นมากหน่อยว่าจะโค่น “นายกช้าง ปิยะ ปิตุเตชะ” บ้านใหญ่ระยองได้ โดยพรรคประชาชนส่ง “ดร.ถัง” ทรงธรรม สุขสว่าง”อดีตผู้ทรงคุณวุฒิด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า กรมอุทยานฯ ท้าชน
การเลือกตั้ง อบจ.สะท้อนภาพการเลือกตั้ง สส.ได้หรือไม่ ? ก็แล้วแต่คนจะคิด บ้างก็ว่าไม่สะท้อนเพราะใช้เขตเลือกตั้งคนละแบบ บ้างก็ว่าสะท้อน โดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัดที่เสียงไม่ได้สวิงมากเท่าเขตเมือง บ้านใหญ่ อบจ.ก็มักจะเกี่ยวพันกับการเมืองระดับชาติ ดังนั้น ถ้าปักฐาน อบจ.และท้องถิ่นอื่นๆ ได้ก็มีผลต่อคะแนน สส.
1 ก.พ.นี้คงจะแข่งขันเดือดในหลายจังหวัด เพราะเพื่อไทย-ประชาชน เปิดหน้าชิงพื้นที่ชัด เหมือนมีภูมิใจไทยดูอยู่อีกฝั่ง.