เมื่อวันที่ 5 ม.ค. เจย์ ชิว ชายหนุ่มจากซิดนีย์ ออสเตรเลีย ได้โพสต์คลิปไลฟ์สดในติ๊กต็อก บอกเล่าประสบการณ์ อาการที่เขาประสบก่อนที่จะได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็งระยะที่ 4 เมื่ออายุ 21 ปี โดยเขาอธิบายว่าเขามักมองข้ามสัญญาณเตือนบางประการเกี่ยวกับสุขภาพที่ไม่ปกติ จนกระทั่งอาการเหล่านั้นกลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเพิกเฉยได้ ซึ่งเขาถูกวินิจฉัยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชนิดฮอดจ์กิน ระยะที่ 4 ซึ่งเป็นระยะที่รุนแรงที่สุดของโรค เพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่อาการเริ่มต้นในเดือนสิงหาคม 2023
ในคลิป TikTok เขาอธิบายว่า สัญญาณแรกเกี่ยวกับสุขภาพของเขาเกิดขึ้นหลังจากที่เขาทำการตรวจเลือดประจำปีเมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมา ตอนนั้นไม่ได้มีอาการอะไรเลย แค่ใช้ชีวิตตามปกติ…ไม่กี่วันหลังจากนั้น ผลการตรวจกลับมา หมอเรียกตนเองแล้วบอกว่า “ระดับแคลเซียมของคุณสูง” ตอนนั้นเขาบอกว่า ไม่ได้คิดอะไรเยอะก็ปล่อยไป ทั้งที่เมื่อระดับแคลเซียมสูง หมายความว่ากระดูกของคุณกำลังต่อสู้กับโรคบางอย่าง แต่ตนไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน
ไม่นานหลังจากนั้น เขาอธิบายว่าเพื่อนและครอบครัวเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในรูปลักษณ์ของเขาอย่างชัดเจน แต่ในตอนนั้นเขากลับไม่เห็นมันเอง โดยเจย์ บอกว่า น้ำหนักเขาลดลงเยอะมากและหน้าฉันซีดมากเหมือนผี แต่ตนเองไม่สังเกตเห็นเลย ซึ่งเมื่อมองในกระจกเขาแล้วคิดว่า ตนเองไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้ดูผอม หรือซีดเลย ซึ่งตนเองไม่เห็นมัน
“ในช่วงเวลานั้น ผมมีอาการของมะเร็ง แต่ว่าผมไม่รู้ว่ามันคือสัญญาณเตือนของมะเร็ง” เจย์ กล่าว
เจย์ ชิว ยังเล่าถึงอาการปวดหลังที่รุนแรงจนรู้สึกเหมือนกระดูกหลังจะหัก ซึ่งมันรบกวนการนอนหลับของเขาอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาคิดว่าแค่มีปัญหากับกระดูกสันหลัง นอกจากนี้ เขายังตื่นขึ้นมาพบกับผ้าปูที่นอนเปียกชุ่มจากเหงื่อออกหนักในตอนกลางคืน และเขารู้สึก เหนื่อยมาก ทุกวัน ซึ่งเช้าวันหนึ่ง ตื่นขึ้นมาแล้วคิดว่า ตนเองฉี่รดเตียงไปเหรอ? “มันแย่มาก” เจย์ กล่าวพร้อมกับบอกว่า มองที่เสื้อแล้วคิดว่า “นี่มันเหงื่อเหรอ?”
นอกจากนี้ยังมีอาการอีกอย่างคือ เขารู้สึกเหนื่อยมาก และขยับตัวไม่ได้ ตื่นขึ้นมาแล้วไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ก็กลับไปนอนพักกลางวันอีก และเขาน้ำหนักลดลงอย่างมากในช่วงเวลานั้น ซึ่งตั้งแต่ตนเองทำการตรวจเลือดจนถึงตอนนั้น ก็มีอาการของมะเร็งทุกอย่าง แค่ไม่รู้ตัว อีกทั้งอาการอื่นๆ ที่เขาประสบยังรวมถึงผื่นที่ขึ้นซ้ำตามส่วนต่างๆ ของร่างกายและผิวแห้ง และเริ่มมีอาการปวดอก อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนและมีอาการไอที่รุนแรง ซึ่งในตอนแรกเขาคิดว่าเป็นการติดเชื้อที่ปอด
หลังจากไปพบแพทย์และได้รับยาปฏิชีวนะ เขารู้สึกสดชื่นเหมือนคนใหม่ แต่ 3 วันหลังจากนั้นเขาก็ป่วยอีกครั้ง และอาการในครั้งนี้รุนแรงกว่าเดิม โดยแพทย์ของเขาแนะนำให้ทำการซีทีสแกนที่โรงพยาบาล ซึ่งเขาได้รับข่าวร้ายว่าตนเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชนิดฮอดจ์กิน ระยะที่ 4
ปัจจุบันเจย์ฟื้นตัวได้ดีหลังจากเสร็จสิ้นการรักษาในเดือนกรกฎาคม และเขายิ่งมีแรงผลักดันที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการของมะเร็งแก่ผู้คนให้มากที่สุด ซึ่งเขาบอกกับชาวโลกออนไลน์ ในช่องคอมเมนต์ว่า ตอนนี้เขาสุขภาพดีและแข็งแรงแล้ว พร้อมขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจเขาตลอดเส้นทาง และดีใจที่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว และตอนนี้แค่พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาสุขภาพที่ดี และแน่นอนว่าชักชวนคนอื่นให้ไปตรวจสุขภาพก่อนที่จะสายเกินไป
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin’s lymphoma) หรือ โรคฮอดจ์กิน (Hodgkin’s disease) เป็นมะเร็งชนิดที่เกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเม็ดเลือดขาวที่อยู่ในระบบน้ำเหลืองของร่างกาย และสามารถแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่ออวัยวะต่างๆ
โดยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กินนี้พบได้ประมาณ 12% ของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองทั้งหมด แต่จะพบได้น้อยมากในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี และพบมากในช่วงอายุ 15-35 ปี และอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป เด็กผู้ชายมีโอกาสเป็นมากกว่าเด็กผู้หญิงประมาณ 3 เท่า ส่วนวัยรุ่นจนถึงผู้ใหญ่จะมีโอกาสเกิดโรคในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 1.5 เท่า
ขอบคุณข้อมูลจาก รพ.รามาธิบดี
@jayshew