กรณีศึกษาขนาดเล็กโครงการหนึ่งเผยผลลัพธ์ที่น่าสนใจเรื่องความเชื่อมโยงระหว่างการขับถ่ายและประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
โครงการนี้มีนักศึกษาผู้เข้าร่วมการทดสอบ 13 คน โดยจะเข้ารับการทดสอบทางจิตวิทยาเพื่อประเมินการทำงานของความคิดและประสิทธิภาพของสมองที่เรียกว่า Stroop Test จำนวน 3 ครั้งในเวลา 1 สัปดาห์
ในครั้งแรก นักศึกษาทั้ง 13 คนจะไม่มีการเข้าห้องน้ำเพื่อขับถ่ายก่อนเข้าไปทำแบบทดสอบ ส่วนในครั้งที่ 2 นักศึกษาจะต้องเข้าห้องน้ำเพื่อขับถ่ายก่อน หลังจากนั้นอีก 1 ชั่วโมงจึงจะเข้าไปทำแบบทดสอบ
สำหรับครั้งที่ 3 พวกเขาก็จะต้องเข้าห้องน้ำเพื่อขับถ่ายก่อนโดยใช้ยาระบายที่มีส่วนผสมของแมกนีเซียมออกไซด์เป็นตัวช่วย หลังจากนั้นจึงจะเข้าไปทำแบบทดสอบ
ทีมนักวิจัยนานาชาติเผยแพร่ผลการทดสอบในวารสาร Sports Medicine and Health Science ฉบับล่าสุดซึ่งระบุว่า ผู้ร่วมโครงการทั้ง 13 คนทำแบบทดสอบได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น หลังจากขับถ่ายโดยใช้ยาระบายที่ผสมแมกนีเซียม และผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ (9 จาก 13 คน คิดเป็นอัตราส่วน 69%) ทำแบบทดสอบได้ดีขึ้นหลังจากการขับถ่ายโดยไม่ใช้ยาระบาย
ในการทดสอบ Stroop Test นั้น ผู้เข้าร่วมจะได้รับการ์ดเขียนชื่อสีต่าง ๆ ที่พิมพ์ด้วยหมึกสีที่ไม่ตรงกับชื่อ (เช่น “สีแดง” ที่พิมพ์ด้วยหมึกสีเขียว) และจะต้องบอกชื่อสีนั้น ๆ อย่างรวดเร็ว จากนั้นทีมวิจัยก็จะนำผลลัพธ์มาใช้วัดระดับความสามารถในการเลือกและการตัดสินใจ
ก่อนหน้านี้ นักวิจัยพบว่าการทำตามวิธีที่ 2 (ขับถ่ายก่อนทำกิจกรรม) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปั่นจักรยานของนักแข่งไตรกีฬาและเพิ่มปริมาณเลือดไปยังเปลือกสมองส่วนหน้า ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้ตัดสินใจ
ทีมวิจัยใช้การศึกษานี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าการขับถ่ายทำให้ร่างกายมีพลังงานมากขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนรู้และออกกำลังกาย พวกเขาเชื่อมโยงประสิทธิภาพในการทำแบบทดสอบ Stroop Test ที่ดีขึ้นกับปริมาณการใช้ออกซิเจนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในบริเวณช่องท้องใต้สะดือหลังขับถ่าย แต่ไม่ค่อยมีผลนักต่อสมองส่วนหน้า
นักวิจัยตั้งทฤษฎีว่าระบบประสาทในลำไส้ที่อยู่รอบๆ ทวารหนักอาจมีบทบาทในการทำงานของสมองด้านการเรียนรู้แบบทันควัน โดยส่งสัญญาณไปยังสมองตามแต่สภาพในลำไส้ในขณะนั้น
แต่การค้นพบที่น่าทึ่งที่สุดคือ ประสิทธิภาพทางสมองที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนของผู้เข้าร่วมโครงการที่รับประทานยาระบายแบบผสมแมกนีเซียมที่ใช้บรรเทาอาการท้องผูก
“แมกนีเซียมสามารถส่งผลกระทบต่อปฏิสัมพันธ์ระหว่างทวารหนักกับสมอง” ผู้เขียนกรณีศึกษากล่าว “การสังเกตการณ์นี้สอดคล้องกับการศึกษาครั้งก่อนซึ่งระบุว่า การบริโภคแมกนีเซียมในช่วง 6 สัปดาห์สามารถบรรเทาอาการซึมเศร้าได้อย่างมีนัยสำคัญ”
นักวิจัยแนะนำให้ถ่ายอุจจาระ 60 ถึง 90 นาทีก่อนทำกิจกรรมสำคัญหรือพิจารณาเรื่องใหญ่ ๆ เพื่อให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น เร็วขึ้น และฉลาดขึ้น นอกจากนี้ พวกเขายังเรียกร้องให้มีการทดลองในสเกลใหญ่ขึ้นเพื่อยืนยันผลลัพธ์นี้และจะได้วิจัยเพิ่มเติมว่า องค์ประกอบของแบคทีเรียในลำไส้, ระดับความหิวและระยะเวลาของมื้ออาหารมีผลกระทบอย่างไรต่อประสิทธิภาพการคิดได้อย่างชัดเจน แจ่มใส
ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2566 มีการค้นคว้าเรื่องความเชื่อมโยงระหว่างทวารหนักและสมอง โดยเชื่อมโยงกับอาการท้องผูกเรื้อรัง และได้ผลออกมาว่า หากไม่ได้มีการขับถ่ายอุจจาระทุกวัน เช่น ขับถ่ายทุกๆ 3 วันหรือมากกว่านั้น การทำงานของสมองหรือสติปัญญาจะแย่ลง
ที่มา : nypost.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES