เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 68 ทีมโฆษก บก.จร. เปิดเผยว่า จากการที่ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.จร., พ.ต.อ.จตุพล เร่งถนอมทรัพย์ รอง ผบก.จร., พ.ต.อ.จามร ทองพรรณ รอง ผบก.จร. มีแนวคิดที่จะนำเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์มาใช้ในด้านงานจราจร ก่อนปัดฝุ่น “จ่าเฉย” ปรับปรุงพัฒนาและนำระบบเอไอ (AI) มาใช้ พร้อมใช้ชื่อใหม่ “สารวัตรเฉย” หรือ พ.ต.ต.เฉย ปัญญาประดิษฐ์ และได้นำร่องทดลองไปแล้วนั้น ต่อมาจากข้อมูลและการสืบสวนทราบว่า ในช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ จะมีประชาชนขับรถยนต์ไปจอดบนทางพิเศษศรีรัช เพื่อรอชมการจุดพลุเป็นประจำ เป็นเหตุให้การจราจรติดขัดและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

ทาง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.จร., พ.ต.อ.จตุพล เร่งถนอมทรัพย์ รอง ผบก.จร., พ.ต.อ.จามร ทองพรรณ รอง ผบก.จร. สั่งการให้พ.ต.อ.พารินท จันทร์เลิศ ผกก.2 บก.จร., พ.ต.ท.ทศพร กลีบแก้ว รอง ผกก.2 บก.จร. ดำเนินการจัดทำแผนป้องกันเหตุ โดยคืนวันที่ 31 ธ.ค. 67 เวลา 23.30 น. ถึงวันที่ 1 ม.ค. 68 เวลา 00.30 น. ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจจจราจร เพื่อป้องกันมิให้ประชาชนนำรถยนต์มาจอดพร้อมกันนั้น ได้นำหุ่น “สารวัตร เฉย AI” ซึ่งมีเทคโนโลยีบันทึกภาพผู้กระทำผิดกฎจราจรไปใช้ในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ พบว่ามีประชาชนนำรถยนต์มาจอด อันเป็นการฝ่าฝืนกฎจราจรจำนวนหลายคัน และได้ทำการรวบรวมข้อมูลจากกล้องประจำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ (Body Camera) และจากการบันทึกภาพจาก “สารวัตร เฉย AI” ซึ่งได้ส่งข้อมูลป้ายทะเบียนรถ ยี่ห้อรถ ประเภทรถ และสีรถ ไปยังศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีด้านการจราจร ออกใบสั่งอัตโนมัติส่งตรงไปยังบ้านของผู้ที่กระทำความผิดประกอบกับการตรวจสอบสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ พบว่ามีการลงข้อความและคลิปวิดีโอในลักษณะดังกล่าว ไปแล้วกว่า 20 คัน และอยู่ระหว่างการออกใบสั่ง เพื่อให้มาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอีกจำนวนหนึ่ง

โดยทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีในความผิดจอดรถบนทางพิเศษโดยไม่มีเหตุอันควร เป็นความผิดตามระเบียบเกี่ยวกับการจราจรในทางพิเศษ พ.ศ. 2555 ข้อ 8 ห้ามมิให้หยุดหรือจอดรถในทางพิเศษ เว้นแต่บริเวณที่มีป้ายอนุญาตให้จอดรถชั่วคราวหรือในกรณีที่รถขัดข้องหรือเกิดอุบัติเหตุ อัตราโทษปรับไม่เกิน 4,000 บาท ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ม.139(2),154(2)