เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นายเอกชาติ มีพร้อม หรือ เอ็ม เอกชาติ เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียกรับทราบข้อหา ชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันออนไลน์ ช้ากว่าที่นัดหมาย 1 ชั่วโมง โดยมีรายงานว่า นายเอกชาติ เดินทางมาถึงแล้วแต่ว่าไม่ยอมลงจากรถ เนื่องจากเห็นว่ามีสื่อมวลชนมาปักหลักทำข่าวเป็นจำนวนมาก โดยใช้ประตูทางเข้าด้านหลัง เพื่อต้องการหลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ซึ่งเจ้าตัวเดินทางมาพร้อมกับทนายความส่วนตัว และก้มหน้าก้มตาไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน

ต่อมา พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า จากการสอบปากคำ นายเอกชาติ ให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา ซึ่งในกรณีของนายเอกชาติ จากการตรวจสอบของตำรวจแล้วพบว่ามีบัญชีเพจเฟซบุ๊กทั้งหมด 3 เพจ ที่แนบลิงก์ชวนให้เล่นพนันออนไลน์ทั้งหมด 6 ลิงก์ ทั้งนี้ ได้มีการตั้งคณะกรรมการชุดสืบสวนสอบสวนสำหรับคดีนี้ขึ้นมา เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธก็ตาม

โดยนายเอกชาติ อ้างว่า เพจเฟซบุ๊กทั้งหมด 3 เพจ และมีการแปะลิงก์ชวนเล่นพนันออนไลน์ 6 ลิงก์ เป็นเพจปลอมทั้งหมด เจ้าตัวไม่ทราบเรื่องอะไรเลย ซึ่งเพจเหล่านี้มีการแปะลิงก์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 แล้ว สำหรับหลักฐานที่นายเอกชาตินำมามอบให้กับตำรวจวันนี้คือ หน้าเพจเฟซบุ๊กจริงของตนเอง ว่า จะมีเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้า Meta Verified ซึ่งจะต้องเสียเงินจ่ายรายเดือนให้กับ Facebook และจากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบว่า เฟซบุ๊กจริงของนายเอกชาติ มีการแปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ แต่หลังจากนี้จะต้องให้กองเครื่องมือพิเศษ หรือ ตอท. ตรวจสอบย้อนหลังอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง และจะต้องตรวจสอบว่า เครื่องหมาย Meta Verified ที่อ้างว่า เป็นเฟซจริง ไม่มีการแปะเว็บพนัน มันคือคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา ซึ่งจะต้องไปตรวจสอบอีกครั้งว่า ก่อนมีและหลังมีเครื่องหมายได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันหรือไม่

เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินว่า เชื่อมโยงกับเว็บพนันหรือไม่ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า ตำรวจไซเบอร์ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่เบื้องต้นพบว่า นายเอกชาติ จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และประกอบอาชีพทำสวนทุเรียน มีทรัพย์สินกว่า 50 ล้านบาท และได้นัดหมายนายเอกชาติ ไปส่งฟ้องต่ออัยการในวันที่ 13 ม.ค. นี้

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวด้วยว่า กรณีรับแปะลิงก์เว็บพนัน มีความผิดต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งศาลจะสั่งจำคุก โดยไม่รอลงอาญาทันที จึงอยากฝากเตือนอินฟลูเอนเซอร์ ที่ตอนนี้ยังรับแปะลิงก์เว็บพนัน หรือทำคอนเทนต์ขยะ ตอนนี้ตำรวจไซเบอร์เอาจริง ตามจับทุกกรณีแน่นอน

ด้าน นายเอกชาติ กล่าวว่า วันนี้ตนไม่ได้มีความกังวลใจอะไร ได้นำหลักฐานที่ตนมีมามอบให้กับตำรวจหมดแล้ว พร้อมกับชี้แจงว่า เพจเฟซบุ๊กที่มีการโพสต์ลิงก์เว็บพนันตามที่ตำรวจได้แจ้งข้อหานั้น เป็นเพจปลอมทั้งหมด ตนมีเพจเฟซบุ๊กจริงเพียงเพจเดียว และยืนยันตัวตน ใส่เลขบัตรประชาชน และข้อมูลส่วนตัวอย่างละเอียด มีการเสียรายเดือนผ่านการ Meta Verify ของเฟซบุ๊กเรียบร้อยแล้ว จะมีเครื่องหมายติ๊กถูกที่ด้านหลังชื่อเพจ

นอกจากนี้ ตนเองยังเคยโพสต์แจ้งเตือนแฟนคลับในเพจ ว่ามีการปลอมเพจเฟซบุ๊กของตนเองขึ้นมานานหลายปีแล้ว และตนก็ได้แจ้งให้กับทางเพจลบเพจปลอมเหล่านี้ทิ้ง ซึ่งก็ได้ลบไปประมาณ 3-4 เพจ แต่ก็ยังมีคนปลอมเพจตนขึ้นมาทำแบบนี้อีก ยอมรับว่าในช่วงเวลานั้น ตนไม่ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีอะไร ที่คนเหล่านี้ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง เพียงแต่แจ้งไปทางเฟซบุ๊กเท่านั้น

“ในวันนี้ ตนนำหลักฐานทั้งหมดมาให้พนักงานสอบสวน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะนำไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป แต่มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเองว่าไม่เคยโพสต์ลิงก์เว็บพนัน หรือรับจ้างโพสต์ลิงก์ใดๆ แม้ที่ผ่านมาจะเคยมีคนมาจ้างให้โพสต์ลิงก์เว็บพนัน เพราะตนเองมีชื่อเสียง เคยเป็นนักแข่งรถ แต่ตนเองก็รู้ดีว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จึงไม่เคยรับงาน”

นายเอกชาติ กล่าวอีกว่า คดีเว็บพนันเป็นคดีเก่าที่ตนเองถูก ปปง. ยึดทรัพย์นั้น เพราะตนเองไปอยู่ในบ้านของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเท่านั้น ไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหาโดยตรง และไม่ได้เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ใดๆ และได้ชี้แจงทรัพย์สินกับทาง ปปง. ไปเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนการต่อสู้คดี ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ก็มีนัดไปขึ้นศาล ส่วนที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่า ตนเองร่ำรวยผิดปกตินั้น ยืนยันว่ามาจากการทำงาน มีสวนทุเรียน และเป็นนักแข่งรถ