เมื่อกลางดึกวันที่ 2 ม.ค. 68 ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายเป็นชาย 2 คน แต่งกายคล้ายเด็กช่าง สวมเสื้อคลุมสีขาวดำ กางเกงยีนขายาว สวมหมวกกันน็อกสีขาว ส่วนอีกคนไม่สวมหมวกน็อก ขี่รถ จยย. ใช้อาวุธปืนตระเวนก่อเหตุชิงทรัพย์ บริเวณปั๊มพีที ใกล้เคียงการไฟฟ้านครหลวง เขตบางบัวทอง ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยคนร้ายใช้ปืนจ่อหัว บังคับให้ผู้เสียหายกดเงินที่ตู้ ATM ภายในปั๊มจำนวน 4,000 บาท หลังก่อเหตุ ได้ขี่ รถ จยย. หลบหนีไป

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้ง 2 คน หลังหลบหนีอยู่ในป่าหญ้าข้างทาง ซึ่งอยู่ภายในซอยช่างสาย จากการตรวจค้นพบเงินสดจำนวน 4,000 บาท อาวุธปืนสั้นชนิดลูกโม่ และปืนไทยประดิษฐ์ ที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 2 กระบอก มีดพกสั้น 2 เล่ม นาฬิกา 1 เรือน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และรถ จยย. ที่ใช้ก่อเหตุ จึงทำการตรวจยึดก่อนนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.บางบัวทอง ทราบชื่อคือ นายอรรถพร อายุ 19 ปี และนายอิทธิธาดา อายุ 21 ปี โดยเมื่อถอดเสื้อคลุมออกมาพบว่ายังใส่เสื้อยืดโปโลหน้าอกปักชื่อสถาบันชื่อดังกลางกรุงแห่งหนึ่ง
นายธนากร อายุ19 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ออกจากร้านสะดวกซื้อและจะไปกดเงินที่ตู้ ATM จากนั้นคนร้าย 2 คน ขี่รถ จยย. มาจากไหนไม่รู้ มาจอดที่หน้ารถตน แล้วถามว่าเรียนโรงเรียนไหน จึงตอบไปว่าไม่ได้เรียน ทำงานแล้ว แล้วคนร้ายยังถามอีกว่ามีเงินเท่าไร ก่อนหยิบโทรศัพท์เปิดให้ดู แล้วคนร้ายก็เอาโทรศัพท์ของตนมาสแกนหน้า โดยเอาปืนมาจ่อหัวบังคับ แล้วกดเงินของตนไป 4,000 บาท แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายร่างกายอะไร ยังบอกอีกว่าให้กลับบ้านดีๆ ตอนนั้นกลัวตายมาก เพราะปืนจ่อหัวอยู่ ตอนแรกบอกคนร้ายว่าจะเอาปืนมาปล้นทำไม ต่อยตัวต่อตัวดีกว่า แต่เขาก็ไม่ฟัง สุดท้ายฝากเตือนไปถึงคนที่จะออกไปกดเงินตอนกลางคืน มองซ้ายมองขวา และระมัดระวังตัวเองให้ดีๆ

นายอรรถพร ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่าที่ต้องไปก่อเหตุชิงทรัพย์เพราะต้องการหาเงินไปจ่ายค่าเช่าห้อง และใช้จ่ายส่วนตัว โดยวันนี้ก่อเหตุมาแล้ว 4-5 ครั้ง แต่ละครั้งจะออกไปกันแค่ 2 คน บางครั้งก็ออกไปแค่คนเดียว
นายอิทธิธาดา ผู้ต้องหา กล่าวว่า วันนี้ไปก่อเหตุชิงทรัพย์คนที่จอดรถอยู่ริมถนน เพราะคิดว่าเป็นคนที่เคยเป็นคู่อริที่เคยมายิงน้องตน จึงเดินเข้าไปถาม และใช้ปืนจี้ตัวบังคับให้เขากดเงินเอามาให้ จำนวน 4,000 บาท แต่ไม่ได้ลงมือทำร่างกายแต่อย่างใด ส่วนรายที่ 2 ขณะขี่รถ จยย. อยู่นั้น ได้ไปเห็นวัยรุ่นชาย 2 คน มองหน้าตน ลักษณะเหมือนเขาหาเรื่อง จึงขี่รถวนกลับไปหา แล้วใช้ปืนขู่จี้ ได้เงินมา 1,000 บาท จนกระทั่งมาถูกตำรวจจับ ส่วนอาวุธปืนกระบอกแรกซื้อมาจากออนไลน์ราคา 4,000 บาท อีกหนึ่งกระบอกเก็บมาได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะยังมีเหตุชิงทรัพย์อีกหลายรายในคืนเดียวกัน โดย นายเซฟ อายุ 19 ปี ผู้เสียหายชาวลาว กล่าวว่า ตนถูกคนร้ายก่อเหตุที่ซอยแสงจันทร์ ระหว่างรอรถอยู่ คนร้ายขี่รถ จยย. ย้อนศร ลงจากรถแล้วใช้อาวุธปืนจ่อที่หัว ขู่ว่าจะยิง ตนรู้สึกกลัวมาก เพราะมาอยู่แถวนี้บ่อย ตนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ และอยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยกันจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
นายเนียม อายุ 21 ปี ผู้เสียหายชาวลาว กล่าวว่า ช่วงประมาณ 22.00 น. ตนยืนรอแท็กซี่อยู่กับนายเซฟ ที่ซอยปากซอยแสงจันทร์ ระหว่างนั้นคนร้ายขี่รถ จยย. ย้อนศรมา และลงจากรถเอาปืนมาจี้หัวตน ถามตนว่า ”เรียนที่ไหน อยู่ที่ไหน มีเงินหรือเปล่า“ ก่อนจะเอาปืนตบมาที่ใบหน้าตน 1 ครั้ง จนปากแตก ตนตกใจกลัวมาก ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้

พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า วันนี้ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายขี่รถ จยย. ตระเวนชิงทรัพย์ตั้งแต่เช้า มีผู้เสียหายหลายราย โดยผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนที่เป็นปืนดัดแปลงมาก่อเหตุ ซึ่งผู้ต้องหารับสภาพว่าก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ว่าก่อเหตุมาแล้วทั้งหมดกี่ราย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ทรัพย์สินที่ได้นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตามปกติ หลังจากนี้จะตรวจสอบว่าใช้สารเสพติดด้วยหรือไม่
ขอฝากเตือนไปถึงพี่น้องประชาชนทุกท่าน หากจะออกไปกดเงินตอนกลางคืน ควรใช้ความระมัดระวังให้มากกว่าปกติ ควรจะไปกดเงินในที่ที่มีคนพลุกพล่าน และอย่าออกไปกดเงินเพียงลำพัง เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 3 ข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน, พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
