เมื่อวันที่ 2 ม.ค. นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) พาดพิงนายชวน ว่า ต้องยอมรับว่าคำให้สัมภาษณ์ของนายชวนเป็นคำพูดที่จี้ใจดำ ย้ำจุดสลบของรัฐบาล จึงส่งลิ่วล้อออกมาเรียงหน้ากระดานพูดจาให้ร้ายนายชวน ทั้งๆ ที่หากย้อนไปดูคำให้สัมภาษณ์ ก็จะเป็นข้อเท็จจริงที่รัฐบาลต้องรับฟัง ในทางการเมืองก็จะเกิดประโยชน์ในภาพรวมหากนำไปปรับปรุง การทำงานในภาคปฏิบัติ การออกมาของนายพายัพ เป็นภาพการเมืองแบบเก่า ที่มุ่งใช้ถ้อยคำทำลายล้างกัน ไม่ก่อประโยชน์ใด แต่ที่แย่ที่สุดคือการดูถูกพรรคประชาธิปัตย์ว่าสาละวันเตี้ยลงบ้าง เลือกตั้งทุกครั้งคนเลือกน้อยลงทุกครั้ง จนจะกลายเป็นพรรคต่ำสิบ ตนขอถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ไปทำอะไรให้หนักส่วนไหนของหัวนายพายัพหรือ ตอบโต้รายบุคคลก็ว่าไป แต่มาพูดแบบนี้พรรคเสียหาย ถ้าจะฟื้นความหลัง กว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคของนายพายัพโดนยุบไปกี่รอบ พรรคไทยรักไทยว่าจ้างพรรคการเมืองขนาดเล็กลงเลือกตั้ง หลีกเลี่ยงกฎร้อยละ 20 ทำผิดโดนยุบ พรรคพลังประชาชน ทำผิดกฎหมายก็ถูกยุบอีก พรรคคุณคือพรรคที่ดีเลิศหรือ แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยทำผิดแล้วถูกยุบพรรค มีแต่พวกของนายพายัพ ที่พยายามให้พรรคประชาธิปัตย์ถูกยุบ ทั้งส่งคนไปร้องเท็จ ทั้งวิ่งเต้นตุลาการให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ทุกอย่างที่พูดมามีหลักฐานจากคำฟ้องของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
“ถ้าพรรคประชาธิปัตย์คิดชั่วทำชั่ว ไม่อยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ ถ้าด่าพรรคขนาดนี้ ช่วยไปบอกพ่อทักษิณของนายพายัพ ช่วยปรับพรรคประชาธิปัตย์ออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเลย คุณมาพูดว่าขอพูดแทนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ให้นายชวนไปเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านตัวเองบ้าง ผมขอถามว่าพูดแทนสมาชิกพรรคคนไหน ช่วยบอกหน่อย และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้สกปรกอย่างที่นายพายัพคิด เพราะไม่มีหัวหน้าพรรคที่ต้องติดคุก ต้องโทษคดีทุจริต หนีคุกหนีคดี” นายราเมศ กล่าว
นายราเมศ กล่าวอีกว่า ส่วนที่นายพายัพบอกให้นายชวน เลิกร้อนตัวหวาดระแวงว่า นายทักษิณ จะทำประโยชน์ให้ประชาชนได้มากกว่า และทำได้ดีกว่าจนคนลืมชื่อนายชวนนั้น ตนคิดว่าไม่ต้องกลัวว่าประชาชนจะจดจำหรือจะลืมชื่อใคร เพราะประวัติศาสตร์บันทึกในทางการเมืองไว้หมด ไม่สามารถลบได้ นายชวน ไม่เคยติดคุกคดีทุจริต นายชวน เดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมคดีนายทักษิณ ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท แม้เหลืออายุความเพียง 2 วัน นายทักษิณ หนีคดีหนีกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลของนายทักษิณ และรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีรัฐมนตรีที่ติดคุกมากที่สุด นายกรัฐมนตรีทั้ง 2 คน ต้องหลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ คดีทุจริตที่มีจำนวนความเสียหายมากที่สุดคือคดีทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว มีนายกรัฐมนตรีที่เลือกปฏิบัติกับประชาชน มีสภาเสียงข้างมากของพรรคการเมืองออกกฎหมายล้างผิดให้พวกตน มีรัฐบาลที่ใช้ความรุนแรงกับประเทศใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีรองนายกรัฐมนตรีขึ้นเวทีประกาศจะไม่สร้างไม่พัฒนาจังหวัดนั้นจนกว่าจะเลือกพรรคเพื่อไทย มีอีกมากมาย เกินกว่าที่ประชาชนจะจำ แต่ทั้งหมดจดไว้ในประวัติศาสตร์ครบถ้วน
“รัฐบาลชุดนี้จะพังเพราะคนชื่อทักษิณ ชินวัตร ปี 2568 จะเป็นปีที่ความจริงปรากฏ นับถอยหลังได้เลย และขอให้นายกรัฐมนตรีสตั๊นต์แมน อย่าให้ลิ่วล้อออกมาฟาดฟันให้ร้ายในทางการเมืองเช่นนี้ เพราะยิ่งพูดยิ่งเข้าเนื้อ อย่าเปิดศักราชด้วยความดุเดือดเช่นนี้” นายราเมศ กล่าว