จากกรณีเกิดเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันภายในบ้านพัก จ.ปราจีนบุรี ของ นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร นายก อบจ.ปราจีนบุรี ซึ่งถือเป็นนักการเมืองคนดังในท้องที่ เป็นเหตุให้ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ อดีต สจ.โต้ง ปราจีนบุรี อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นลูกบุญธรรม ถูกยิงเสียชีวิต หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีการโอนสำนวนคดีมายังกองบังคับการปราบปราม

เมื่อวันที่ 2 ม.ค. น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของ สจ.โต้ง เข้าให้ปากคำพร้อมกับ นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความ ภายหลัง สจ.จอย เป็นคนร้องขอให้ทางกองบังคับการปราบปรามเป็นคนสืบสวนสอบสวนคดีนี้ด้วยตนเอง

นายนิติศักดิ์ ระบุว่า หลังจากที่ทางกองบังคับการปราบปรามรับโอนสำนวนคดีมาคาดว่าช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา น่าจะมีการตรวจสำนวนภายในคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และน่าจะพบว่ามีประเด็นไหนบ้างที่จะสอบปากคำเพิ่มเติม จึงทำให้ในวันนี้พนักงานสอบสวนได้มีการเรียกตัว สจ.จอย เพื่อเข้ามาสอบปากคำ ทาง สจ.จอย ก็ได้เดินทางมาจากจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเข้ามาพบพนักงานสอบสวน ส่วนประเด็นที่จะสอบปากคำเพิ่มเติมมองว่าเป็นเพราะ สจ.จอย มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ สจ.โต้ง เนื่องจากเป็นภรรยา น่าจะรู้รายละเอียด ข้อมูลในคดีมากกว่าคนอื่น

เมื่อถามว่า ประเด็นในการสอบปากคำวันนี้ จะมุ่งเน้นไปในเรื่องไหนเป็นหลัก นายนิติศักดิ์ บอกว่า ประเด็นการสอบสวนยังไม่ได้คุยรายละเอียด หลักๆ น่าจะเป็นประเด็นทั้งหมดของรูปคดี ว่ามีเหตุจูงใจในการฆ่าหรือไม่ หรือ สจ.จอย เป็นคนใกล้ชิดรู้เห็นในส่วนของการตายของ สจ.โต้ง ในเรื่องไหนบ้าง และต้องดูว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดใจในประเด็นไหนบ้างเพิ่ม ทั้งบุคคลที่โดนดำเนินคดี หรือมีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ก็จะต้องรอทางเจ้าที่กองปราบสรุปคดีให้ชัดเจนก่อน

ส่วนประเด็นที่ สจ.โต้ง อยู่กับ สจ.จอย ภายในรถและมีโทรศัพท์เข้ามาหา สจ.โต้ง นั้น บุคคลดังกล่าวคือใคร นายนิติศักดิ์ ระบุว่า คงจะต้องดูรายละเอียดทั้งหมดทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ว่ามีส่วนรู้เห็นในประเด็นไหนบ้างในฐานะพยาน ซึ่งตนได้มีการพูดคุยกับ สจ.จอย ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้คลายความกังวลลงไป หลังจากที่กองบังคับการปราบปรามมีการรับคดีมาดูแล เนื่องจากมั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กองบังคับการปราบปราม ว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีว่าในคดีนี้ใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งตอนนี้ สจ.จอย มุ่งเน้นไปที่การลงพื้นที่หาเสียง ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในจังหวัดปราจีนบุรี

เมื่อถามว่ายังติดใจในประเด็นไหนหรือไม่ นายนิติศักดิ์ ระบุว่า ให้อยู่ในสำนวนคดีดีกว่า ซึ่งในเบื้องต้น สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้มีการสอบปากคำ สจ.จอย เป็นที่เรียบร้อย แต่เป็นการสอบปากคำในเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้ลงรายละเอียด ทั้งนี้ สจ.จอย จะสอบปากคำทุกประเด็นที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อให้สำนวนครบถ้วน ซึ่งเบื้องต้นกองบังคับการปราบปรามยังไม่ได้มีการขอพยานหลักฐานอะไรเพิ่มเติมจาก สจ.จอย เพราะก่อนหน้านี้กองบังคับการปราบปรามเอง ก็ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแต่ละจุด จึงเชื่อว่าข้อมูลน่าจะครบถ้วนแล้ว

นอกจากนี้ สจ.จอย ยังคงกังวลอยู่ในเรื่องเดียว คืออยากได้รับความเป็นธรรม เพราะ สจ.จอย อยากให้บุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ได้รับโทษทางกฎหมายทั้งหมด ทั้งผู้ใช้ ผู้บงการ หรือตัวการร่วม หรือแบ่งหน้าที่กันทำ เป็นผู้สนับสนุนที่กระทำความผิด ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้รับโทษทางกฎหมายครบถ้วนทุกคน

ในเรื่องของความปลอดภัย เบื้องต้นหลังส่งโอนสำนวนคดีมาที่กองบังคับการปราบปราม สจ.จอย ได้มีการขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาดูแลความปลอดภัยระหว่างที่ดำเนินคดีอยู่ ซึ่งก็มีความระมัดระวังในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น แต่ถามว่ากังวลหรือไม่ ขณะนี้ สจ.จอย คงไม่กังวล เนื่องจากตอนนี้ก็ยังลงพื้นที่หาเสียงขอคะแนนเสียงจากชาวบ้านพี่น้องจังหวัดปราจีนบุรี เป็นเรื่องปกติ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีการข่มขู่มาถึงตัว สจ.จอย

ส่วนกรณีที่มีบุคคลนำคลิปภาพและคลิปเสียงออกมาเปิดเผย เป็นภาพที่เกี่ยวข้องกับกล่องเงินสีน้ำตาล รวมถึงประเด็นที่มีการพาดพิงว่า สจ.โต้ง มีส่วนพัวพันกับเว็บพนัน และอ้างว่า สจ.โต้ง เป็นลูกแท้ๆ ของนายสุนทร นายนิติศักดิ์ ระบุว่า เป็นการสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อที่จะเบี่ยงเบนประเด็น ซึ่งตนอยากจะให้มุ่งเน้นไปในเรื่องของการสืบสวนสอบสวนว่าในวันที่เกิดเหตุฆาตกรรม สจ.โต้ง มีใครที่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้บ้าง พร้อมบอกว่าคนตายไปแล้วพูดอะไรไม่ได้ ยืนยันว่า สจ.โต้ง ไม่เคยมีส่วนพัวพันกับเว็บพนัน ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณา และเชื่อว่าทุกเรื่องที่มีการปล่อยกระแสข่าวออกมานั้น จะไม่กระทบต่อสำนวนคดี และเชื่อว่าในคดีนี้น่าจะมีความคืบหน้าไปมากแล้ว

ส่วนจะมีการออกหมายเรียกหรือหมายจับใครเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ตนเชื่อว่าน่าจะอยู่ในสำนวนการสอบสวน โดยไม่สามารถที่จะฟันธงได้ แต่เชื่อว่าน่าจะมีบุคคลอื่นอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่จะต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจวิเคราะห์จากพยานหลักฐานที่มีอยู่ และหากพบว่ามีบุคคลอื่นเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เชื่อว่าตำรวจก็น่าจะดำเนินคดีกับทุกคน

ส่วน ”รองอุ๊“ จะมีการเรียกมาสอบปากคำเพิ่มหรือไม่ นายนิติศักดิ์ ระบุว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วน “ดาว“ ที่เป็นลูกเขยนายสุนทรที่อยู่ในบ้าน ได้มีการสอบปากคำไปแล้ว พร้อมบอกว่าได้สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องไว้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งเบื้องต้นทางกฎหมายจะต้องสอบไว้ให้เป็นพยานก่อน ส่วนในอนาคตจะเป็นผู้ต้องหาหรือไม่นั้น จะต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่

ทั้งนี้ มีรายงานจากชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว ระบุว่า การที่เรียก สจ.จอย มาพบพนักงานสอบสวน และสอบปากคำในวันนี้ เรียกมาสอบในฐานะภรรยา เพื่อให้เป็นผู้กล่าวหาแทนผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีการสอบในเรื่องของก่อนเกิดเหตุ ว่าระหว่างที่มีการนั่งรถไปด้วยกัน สจ.จอย มีการพูดคุยอะไรกับ สจ.โต้ง รวมถึงมีใครโทรศัพท์เข้ามาหา สจ.โต้ง จนทำให้ สจ.โต้ง ตัดสินใจขับรถวนกลับไปเพื่อส่ง สจ.จอย ที่บ้าน ก่อนที่ สจ.โต้ง จะขับรถเข้าไปที่บ้านของนายสุนทร จนทำให้ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านของนายสุนทร ส่วนลูกน้องคนสนิทของ สจ.จอย และ สจ.โต้ง ที่อยู่ในวันเกิดเหตุนั้น ได้มีการสอบปากคำไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่อาจจะมีการเรียกกลับมาสอบปากคำเพิ่มเติมบางคน ซึ่งในวันนี้จะมีการสอบปากคำ สจ.จอย เป็นหลักก่อน