เมื่อวันที่ 2 ม.ค. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกของปี 68 ในวันที่ 7 ม.ค. นี้ ทางกระทรวงดีอีจะเสนอขออนุมัติเห็นชอบ การแก้ไข พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 เพื่อให้การแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเร่งรัดคืนเงินให้ผู้เสียหาย โดยเฉพาะกรณีที่มีการระงับหรืออายัดบัญชีม้าที่มีเงินในธนาคาร และการเพิ่มโทษ การซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล โดยถือว่าเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อประชาชน เศรษฐกิจ และสังคม โดยจะเพิ่มอัตราโทษจำคุกเพิ่มขึ้นจาก 1 ปี เป็น 5 ปี ด้วย
“ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจร่างและคาดว่าจะผ่านภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นจะส่งกลับมาให้ ครม. เห็นชอบในการประชุมนัดแรกของปีนี้ และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ในเดือน ม.ค. 68 โดยประเด็นสำคัญของกฎหมาย คือ การเพิ่มความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ภายใต้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ร่วมรับผิดชอบในความเสียหายของประชาชนที่ถูกหลอกลวงออนไลน์ หากผู้ประกอบการละเลย หรือไม่ดูแลระบบอย่างดีพอ รวมถึงและมีการป้องกันการโอนเงินแบบผิดกฎหมายของคนร้ายโดยการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลด้วย”
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และ สน.ห้วยขวาง บุกจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ภายในห้องพักของคอนโดมิเนียม ย่านพระราม 9 พบ ซิมบ็อกซ์ (Sim Box) 286 เครื่อง ซิมการ์ดกว่า 3 แสนชิ้นนั้น ดีอี จะมีการขอหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เกี่ยวกับขั้นตอนการจำหน่ายซิมการ์ดและการลงทะเบียนยืนยันตัวตน เพราะแม้ว่าเอกชนที่เป็นเจ้าของซิมดังกล่าว จะระบุว่าเป็นกว้านซิมของรายย่อย แต่ด้วยจำนวนที่มากขนาดนั้น ก็จำเป็นที่จะต้องคุยและหารือถึงแนวทางในการจัดสรรเลขหมาย และการจัดจำหน่ายเพื่อไม่ให้นำไปใช้ทางผิดกฎหมายต่อไปด้วย
สำหรับแนวทางแก้ไขการเปิดบัญชีผิดกฎหมายที่มีลักษณะเป็นบัญชีม้านิติบุคคลนั้น ล่าสุดกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงด้านการฟอกเงิน (HR-03) กับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พร้อมออกคำสั่งการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล หากมีชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ หรือกรรมการ ที่ระบุในคำขอ เป็นบุคคลที่มีชื่อในข้อมูล HR-03 จะชะลอการจดทะเบียนไว้ก่อน และให้บุคคลนั้นมาแสดงตน และแสดงหลักฐาน หากไม่มา จะปฏิเสธไม่รับจดทะเบียนทันที โดยได้เริ่มบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา เพื่อช่วยสกัดกั้นการเปิดบัญชีม้านิติบุคคลให้เข้มงวดอย่างต่อเนื่อง ป้องปรามและปราบปรามการกระทำผิดอย่างจริงจัง