ลาแล้วปีเก่า พ.ศ.2567 ที่มากด้วยเหตุการณ์สั่นสะเทือนบ้านเมือง แถมยังเกิดภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ส่งท้ายในหลายพื้นที่ วันเวลาเดินหน้าเข้าสู่ปีใหม่ พ.ศ.2568 ยังมีหลายสิ่งอย่างก้าวต่อเนื่องข้ามปี
ขณะที่รัฐบาลผสมชุดปัจจุบันที่นำโดย “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ยังเดินหน้างานบริหารประเทศ ท่ามกลางมรสุมจากสารพัดปัญหาและความท้าทายต่างๆที่รออยู่ตรงหน้า
มาดูที่ภาวะเศรษฐกิจทั้งระดับชาติและระดับครัวเรือน ก็ยังไม่กระเตื้องเท่าที่ควร พรรคเพื่อไทยที่โฆษณาว่าตัวเองเคยมีผลงานเด่นด้านเศรษฐกิจ แต่เมื่อได้เป็นแกนนำรัฐบาลผสมมากว่า 2 ปี พยายามอัดฉีดโครงการประชานิยม ทำทุกวิถีทางเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน หวังให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ แต่ปัญหาปากท้องยังกดทับประชาชนมาตลอด ผู้คนหมดกำลังซื้อ เพราะขาดกำลังทรัพย์ เจอปัญหาหนี้สินรุมเร้า รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง ควบคู่กับการเดินหน้าปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กัน
หันมาโฟกัสที่เกมการเมือง ในขั้วรัฐบาลยังคงมีศึกในให้เห็นเป็นระยะๆ แม้บรรดาหัวหน้าและแกนนำพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลออกหน้าการันตีรักใคร่สามัคคี แต่หลายเหตุการณ์ฉายภาพรักกันแบบตบจูบ จนบางครั้งฟาดฟันกันหนักหน่วง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 พรรคใหญ่ “เพื่อไทย–ภูมิใจไทย” ที่ยังช่วงชิงอำนาจทางการเมือง สำหรับพรรคเพื่อไทย ศูนย์กลางอำนาจตัวจริงอยู่ที่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี สยายปีกเดินเกมการเมืองเต็มสูบในปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าจะเพิ่มมากขึ้นในปีใหม่นี้ เพราะมีนโยบายธงนำและงานสำคัญหลายเรื่องที่พรรคฯ ยังผลักดันไม่ได้ดั่งใจ จึงจำเป็นต้องเร่งเครื่องนับจากนี้
ควบคู่กับการโหมเร่งเครื่องฟื้นฟูกำลังฐานเสียงทางการเมืองในหลายพื้นที่ เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหญ่รอบหน้า จึงได้เห็นภาพ “อดีตนายกฯทักษิณ” นำคณะ เดินสายลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงจากชาวบ้านหลายจังหวัด พร้อมกับเดินเกมใช้บริการ “บ้านใหญ่” เพื่อชิงชัยในศึกเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
ส่วนพรรคภูมิใจไทย ที่ผ่านมาถูกมองว่าใช้ยุทธวิธีกระตุกขา “เพื่อไทย–ทักษิณ” และพยายามแสดงบทบาทหวังได้แต้มจนได้เป็นผู้นำฝ่ายอนุรักษ์นิยม และยังคงครองอำนาจในวุฒิสภา แม้มีพลังต่อรองมากอยู่แล้ว แต่ยังเดินหน้าประลองยุทธ์ พยายามกวาดต้อนบ้านใหญ่เช่นกัน ร่วมชิงฐานการเมืองในสนามเลือกตั้งอบจ.เช่นกัน แม้ไม่ได้ประกาศส่งตัวแทนแบบไม่เป็นทางการ ทำให้การเมืองท้องถิ่นสนามนี้ดุเดือดกว่าในอดีต
ศึกนอกรัฐบาล ก็ประมาทไม่ได้ เพราะฝ่ายค้านอย่าง “พรรคประชาชน” ประกาศเตรียมจะยื่นขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในช่วงต้นปี 2568 แน่นอน ซึ่ง“รัฐบาลแพทองธาร” คงต้องเร่งเตรียมทำการบ้านรับมือศึกซักฟอกในสภาฯ ที่สามารถส่งผลขยายสู่นอกสภาได้และคะแนนความเชื่อมั่นจากประชาชนเช่นกัน
นี่แค่ภาพตัวอย่างศึกใน-ศึกนอก ล้วนเป็นโจทย์ใหญ่ที่ท้าทาย “นายกฯแพทองธาร” ว่าจะแสดงภาวะผู้นำของตัวเองให้เป็นที่ประจักษ์ได้หรือไม่ จะโชว์ฝีมือตัวเองบริหารจัดการได้แค่ไหน หรือจะยังอยู่ใต้เงาของผู้เป็นพ่อ คงคอนเซ็ปต์ฉายา “รัฐบาลพ่อเลี้ยง” ตลอดกาล