เมื่อวันที่ 1 ม.ค. นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกมาวิเคราะห์ว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.จังหวัดเชียงใหม่ จะเป็นการวัดบารมีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และจะส่งผลไปถึงการเมืองระดับชาติ และหากแพ้พรรคประชาชน ก็อาจจะทำให้มี สส. หลายคนย้ายไปซบพรรคอื่น ว่า ไม่น่าจะเกี่ยว นายปริญญา ก็เป็นนักวิชาการ และอาจจะมองในมุม ที่ไม่เหมือนกับที่นักการเมืองมอง

นายสรวงศ์ กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งขึ้นอยู่ที่พี่น้องประชาชน แต่หากถามว่านักวิชาการมีผลต่อการเลือกตั้งหรือไม่นั้น มีแน่นอน เนื่องจากเมื่อสื่อมวลชนให้ความสำคัญและให้พื้นที่นักวิชาการเยอะ และกลายเป็นว่าเหมือนเป็นการหาเสียงทางอ้อม แล้วถึงแม้นักวิชาการจะบอกว่าไม่ได้เลือกข้างก็จริง แต่โดยการสัตย์จริงแล้ว การที่ออกมาพูดอะไรอาจจะไม่ได้ทำให้ประชาชนเลือกพรรคหนึ่งพรรคใด แต่ก็อาจจะส่งผลให้ประชาชนมีความคิดที่เปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยก็ทำดีที่สุด ทำเต็มที่ที่สุด และผู้สมัครเองก็ทำเต็มที่ที่สุด ที่เหลือก็ขึ้นอยู่ที่ประชาชน ซึ่งจะมีผลหรือไม่ ถ้าเลือกตั้งคราวนี้แพ้ ก็อาจจะมีผล แต่ตนก็เคารพความคิดเห็นของนายปริญญา แต่ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยเองก็ทำเต็มที่แล้ว จะชนะหรือแพ้ก็อยู่ที่ประชาชนว่าจะให้ความไว้วางใจกับใคร

เมื่อถามว่า นายปริญญายังวิเคราะห์อีกว่าในการเลือกตั้งนายก อบจ. ที่จะเกิดขึ้นในเดือน ก.พ. ยังมีอีกกว่า 40 จังหวัด ที่ยังไม่ได้รับการเลือกตั้ง จึงทำให้เป็นข้อได้เปรียบของพรรคประชาชน ที่จะเรียกความนิยมคืน เพราะยังมีไพ่อีกหลายใบ แต่พรรคเพื่อไทยก็เหลือเพียงไพ่ใบสุดท้ายคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะเรียกคะแนนนิยม นายสรวงศ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทำเต็มที่ในทุกจังหวัดที่ส่งผู้สมัครลง และขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งนายก อบจ. ในจังหวัดที่คิดว่ามีโอกาส และให้ความสำคัญกับทุกจังหวัดที่ส่งไป ทางพรรคประชาชนจะมีไพ่กี่ใบก็แล้วแต่ สุดท้ายท้ายสุด ทุกคนก็สู้กันเต็มหน้าตัก มีศักยภาพมีบุคลากรขนาดไหน มันมีอีกหลายองค์ประกอบ

เมื่อถามว่าแสดงว่าพรรคเพื่อไทยก็ยังมีความมั่นใจ ว่าคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้ นายสรวงศ์กล่าวว่า หากไม่มั่นใจก็คงจะไม่ส่ง ดังนั้นการที่พรรคส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ก็คือมีความมั่นใจ และสำคัญที่สุดคือ พี่น้องประชาชนก็คงจะรู้แล้วว่า อะไรคือความจริง หรืออะไรเป็นแค่คำพูด พอท้ายที่สุดแล้ว ขณะนี้การเมืองในประเทศไทยก็กลับมาเป็นการเมืองแบบเดิม ที่เป็นการโจมตีกันไปกันมา และมาพูดจาให้ร้ายกัน ซึ่งทั้งหมดก็กลับมาอีหรอบเดิม