เมื่อวันที่ 1 ม.ค. นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ว่า เป็นการสะท้อนการเมืองระดับประเทศ แน่นอนว่าแนวโน้มของผู้เลือกตั้ง จะเลือกผู้ที่มาแก้ปัญหาในท้องถิ่น ทำให้การเมืองบ้านใหญ่ที่ส่งคนลงสมัครจะมีแนวโน้มได้เปรียบมากกว่า และมีหลายจังหวัดที่บ้านใหญ่อย่างเพื่อไทยจะแพ้ไม่ได้ เช่น ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่พรรคประชาชนก็มีโอกาส ดังนั้น การแข่งขันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน ใน จ.เชียงใหม่ จึงจะดุเดือด ส่วนพื้นที่อื่นก็เป็นการแข่งขันกับพรรคอื่น อยู่ที่ว่าบ้านใหญ่จะหลีกทางให้ส่งแค่บ้านใหญ่บ้านเดียวหรือไม่

“ที่เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยก็หวังชนะ ซึ่งจะเป็นการวัดบารมีคุณทักษิณ หากแพ้พรรคประชาชน จะส่งผลต่อการเลือกตั้งระดับชาติครั้งหน้า เพราะบรรดา สส. ที่มีแผนจะย้ายค่ายมาเพื่อไทย อาจจะเปลี่ยนใจไปภูมิใจไทยได้ เพื่อไทยจึงต้องชนะ เพื่อทำให้คนมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะกลับมา และทำให้ถนนทุกสายมุ่งมาที่พรรคเพื่อไทย การเลือกตั้ง อบจ. คราวนี้ จึงมีผลต่อการเมืองระดับชาติมากๆ” นายปริญญา กล่าว 

นายปริญญา กล่าวอีกว่า โอกาสของพรรคประชาชน ตรงที่การเลือกตั้ง อบจ. ที่เหลืออีก 40 กว่าจังหวัด ที่จะเลือกพร้อมกันในเดือน ก.พ. 2568 โอกาสที่บ้านใหญ่จะจับมือกันก็มีน้อยกว่า ประการที่สอง ในการเลือกตั้งระดับชาติ พรรคประชาชนยังมีไพ่หลายใบ โดยมีว่าที่นายกฯ ที่เขามั่นใจว่าจะได้คะแนนนิยม เพื่อรักษาแชมป์ และหวังว่าจะได้ สส. มากกว่าเดิม ขณะที่พรรคเพื่อไทยดูเหมือนว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะเป็นไพ่ใบสุดท้ายแล้ว หรือยังไงก็ต้องรอดูไพ่ใบใหม่ของนายทักษิณ ว่าจะมีอีกหรือไม่ 

นายปริญญา กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ข้อเสียเปรียบอย่างหนึ่งของพรรคประชาชน คือคำร้องกรณี สส.อดีตพรรคก้าวไกล 44 คน ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมในเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งตนเชื่อว่าไม่โดนทั้งหมด เพราะการลงชื่อเสนอร่างกฎหมาย เป็นอำนาจหน้าที่ สส. ตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นถ้าจะโดน ก็ต้องเป็นการกระทำอื่น ซึ่งต้องว่าเป็นรายคน และต้องดูว่า ป.ป.ช. มีมติส่งศาลฎีกากี่คน แล้วศาลฎีการับคำร้องกี่คน ซึ่งถ้าศาลฎีการับคำร้อง ก็จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลให้พรรคประชาชนจะมี สส.น้อยลง และกลายเป็นพรรคอันดับ 2 ได้.