สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ว่านายคิม ฮง-รัก ผู้อำนวยการทั่วไปด้านนโยบายท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ กล่าวว่า คณะทำงานที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง กับการก่อสร้างกำแพงคอนกรีต สำหรับติดตั้งอุปกรณ์นำร่องเพื่อลงจอด ที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ในจังหวัดช็อลลาใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ เที่ยวบิน 7ซี2216 ของเจจู แอร์ ไถลออกนอกรันเวย์ไปชนเข้ากับกำแพงคอนกรีต จนไฟลุกท่วม มีผู้เสียชีวิต 179 ราย เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บรรดาผู้สันทัดกรณีทั้งในและต่างประเทศ ตั้งคำถามไปในทางเดียวกัน ว่าเพราะเหตุใดต้องมีกำแพงคอนกรีตหนาขนาดนี้ อยู่ที่ส่วนปลายของรันเวย์ และหากจะมีโครงสร้างลักษณะนี้ ควรเป็นอิฐมวลเบามากกว่าหรือไม่
ขณะที่นายจู จอง-วาน ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายการบิน กระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ ชี้แจงว่า อุปกรณ์ดังกล่าวซึ่งเรียกว่า โลคอลไลเซอร์ ติดตั้งอยู่นอกพื้นที่ปลอดภัยบริเวณปลายรันเวย์ จึงไม่ถือว่า อยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายสิ่งอำนวยความสะดวกท่าอากาศยาน
Blame mounts over concrete structure at Muan airport for amplifying crash impacthttps://t.co/u9J0x3ORRH
— The Korea Times (@koreatimescokr) December 31, 2024
อย่างไรก็ตาม องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) มีแนวทางปฏิบัติว่า วัตถุหรือสิ่งก่อสร้างใดก็ตาม “ที่อยู่บริเวณรันเวย์และพื้นที่ปลอดภัยโดยรอบ” ควรทำจากวัสดุที่แตกหักหรือเปลี่ยนรูปได้ง่าย เมื่อเกิดแรงกระแทก เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอากาศยาน
นอกจากนั้น โครงสร้างดังกล่าวควรได้รับการออกแบบให้มีความสูงและมีน้ำหนัก “น้อยสุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ส่วนมาตรฐานความปลอดภัยการบินพลเรือนของเกาหลีใต้ระบุชัดเจน ว่าฐานรากของโครงสร้างที่ได้รับการอนุมัติให้ติดตั้ง ในเขตพื้นที่ปลอดภัยของรันเวย์ ต้องสูงไม่เกิน 7.5 เซนติเมตรจากพื้นดิน และต้องสามารถแตกหักได้ง่าย.
เครดิตภาพ : AFP