เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายภาสกร บุญญลักษม์ ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เพื่อรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 แถลงหลังการประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 ว่า ที่ประชุมเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำชับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ทั้งจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย เพิ่มความเข้มข้น ในการตรวจตราความปลอดภัยอุบัติเหตุทางถนนคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายมาตรการ 10 ข้อหาหลัก อย่างเข้มงวดเพิ่มจุดตรวจ จุดสกัด ด่านตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในถนนสายรอง/ชุมชนที่มีการจัดงานส่งท้ายปีเก่าฯ ร่วมกับอสม.เคาะประตูบ้านที่มีงานเพื่อสกัดคนเสี่ยงลงถนน เฝ้าระวังวัด สถานที่ท่องเที่ยว ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน เฝ้าระวังอัคคีภัยในพื้นที่จัดงาน โดยเฉพาะที่มีการจุดพลุ ดอกไม้ไฟ ย้ำห้ามขายเหล้าให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี หากฝ่าฝืน จนเกิดอุบัติเหตุจะเอาผิดคนขายด้วย ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุได้ที่สายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง และไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ด้าน พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เพิ่มการดูแลอุบัติเหตุทางถนนที่มีสาเหตุจากการไม่สวมหมากนิรภัย โดยใช้กลยุทธ์ “การเปลี่ยนจุดจับเป็นจุดแจก” ซึ่งจะแจกจ่ายหมวกนิรภัยให้กับกลุ่มเยาวชน และยังเตรียมกำลังพลและชุดเคลื่อนที่เร็วทั่วประเทศ กว่า 40,000 นาย ตั้งจุดตรวจจุดสกัด รวม 4,068 จุดทั่วประเทศ สำหรับสถานที่จัดงานเคานท์ดาวน์ขนาดใหญ่ 49 แห่งทั่วประเทศ จะจัดให้มีการคัดกรองบุคคล เส้นทางฉุกเฉิน การเข้าระงับเหตุในพื้นที่ ควบคุมปริมาณคนให้เหมาะสมกับพื้นที่จัดงาน ทั้งนี้มีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ กว่า 20,000 นาย ปฏิบัติหน้าที่ รวมการดูแลทุกพื้นที่อีกกว่า 60,000 นาย มีการตรวจสอบเส้นทาง ปริมาณรถ ปรับแผนการปฏิบัติให้สอดคล้องกับข้อมูลและแผนในภาพรวม โดยพิจารณาเส้นทางหลัก เส้นทางรอง การเกิดอุบัติเหตุ สภาพพื้นที่หรือการจัดงาน
สำหรับรายงานอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ประจำวันที่ 30 ธ.ค. 2567 เกิดอุบัติเหตุ 261 ครั้ง บาดเจ็บ 267 ราย เสียชีวิต 32 ราย สาเหตุเกิดจากขับรถเร็ว 43.30 เปอร์เซ็นต์ ดื่มแล้วขับ 22.61 เปอร์เซ็นต์ ตัดหน้ากระชั้นชิด 21.07 เปอร์เซ็นต์ โดยรถจักรยานยนต์เกิดมากสุด 83.77 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 77.78 เปอร์เซ็นต์ ถนนกรมทางหลวง 37.93 เปอร์เซ็นต์ ถนนใน อบต./หมู่บ้าน 33.33 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เกิด เวลา 16.01–17.00 น. 9.58 เปอร์เซ็นต์ ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี 18.06 เปอร์เซ็นต์ ลำปางเกิดอุบัติเหตุมากสุด 12 ครั้ง และมีผู้บาดเจ็บสูงสุด 13 คน ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดคือนนทบุรี 6 ราย
โดยสรุปรายงานอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วัน ตั้งแต่ 27–30 ธ.ค. 2567 เกิดอุบัติเหตุรวม 1,134 ครั้ง บาดเจ็บรวม 1,109 ราย เสียชีวิต 175 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา 42 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา 39 ราย จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และนนทบุรี จังหวัดละ 9 ราย
