เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.67 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น. น.ส.ชัชฎา จันทรางศุ ประธานมูลนิธิแก้ไขปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ (มปอ.) พ.ต.อ.ธีรภพ รุมแสง รอง ผบก.จร. พ.ต.อ.สันทัด ลยางกูร รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ ผกก.สน.มักกะสัน ‍พ.ต.ท.ปิตินันท์ แก้วดวงเทียน รองผกก.ป สน.มักกะสัน ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์โครงการ“ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย ใส่ใจเพื่อนร่วมทาง“ ให้กับเจ้าของสถานบริการ สถานประกอบการร้านอาหารที่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในพื้นที่อาร์ซีเอ 

พล.ต.ต.ธวัช กล่าวว่า ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะมีพี่น้องประชาชนในกรุงเทพมหานคร ตลอดจนนักท่องเที่ยวออกมาเฉลิมฉลอง ท่องเที่ยวตามสถานบริการ สถานประกอบการ และมีการดื่มแอลกอฮอล์กันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้หากผู้ที่ดื่มแอลกอฮฮอล์แล้วขับขี่ยานพาหนะด้วยตนเอง ก็อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุ เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินตามมา

ทางบช.น. จึงได้ร่วมกับมูลนิธิแก้ไขปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ (มปอ.)  และภาคีเครือข่ายประชาสัมพันธ์โครงการดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย ใส่ใจเพื่อนร่วมทาง  โดยขอให้ผู้ประกอบการดำเนินการประชาสัมพันธ์ตามโครงการดังกล่าวให้ลูกค้าที่มาใช้บริการทุกรายทราบ และตระหนักถึงความปลอดภัยในการเดินทางบนท้องถนน รวมถึงหามาตรการเพื่อรับผิดขอบต่อสังคมร่วมกัน อาทิเช่น บริการเรียกรถรับจ้างเรียกรถรับจ้าง สาธารณะ หรือบริการจุดพักคอย เป็นต้น พร้อมเน้นย้ำให้สถานบริการ สถานประกอบการ รวมถึงร้านอาหารหรือร้านค้าทุกประเภทที่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในกรณี “ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลที่มีอาการมึนเมาจนครองสติไม่ได้”

จากการ ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้พบว่าผู้ประกอบการต่างให้ความร่วมมือ มีการจัดจุดพักคอย และบริการเรียกรถสาธารณะ ตลอดจนมีเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ไว้รองรับ  ขณะเดียวกันทางสถานประกอบการก็มีมาตรการรองรับความปลอดภัยมีประตูหนีไฟและถังดับเพลิง ไฟส่องสว่างและติดตั้งสัญญาณแจ้งกรณีเหตุไฟไหม้ และตรวจบัตรผู้ใช้บริการทุกคนห้ามอายุต่ำกว่า 20ปี เข้าใช้บริการ ห้ามผู้ใช้บริการพกพาอาวุธปืน มีด เข้าใช้สถานบริการโดยมี เครื่องเอ็กซเรย์ในการตรวจจับสิ่งผิดกฎหมาย ได้มาตรฐานซึ่งจะสร้างความอุ่นใจให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ 

ทั้งนี้ขอความร่วมมือ หากผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืน จะมีความผิดตาม พระราชบัญญัติ ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 40ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ