สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองอิ๋นชวน ประเทศจีน เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ว่านายหนิง เสี่ยวข่าย รองผู้จัดการทั่วไปของหนิงเซี่ย ข่ายซื่อลี่ อินดัสเทรียล ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2545 กล่าวว่า มีการจัดตั้งทีมส่งเสริมการขายไวน์องุ่นของบริษัทในหลายประเทศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทยและลาว เพื่อนำเสนอไวน์คุณภาพสูงสู่ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารท้องถิ่น


หนิงเซี่ย ข่ายซื่อลี่ อินดัสเทรียล ถือเป็นบริษัทไวน์แห่งแรก ที่เปิดในพื้นที่ผลิตไวน์หงซื่อเป่า บนเชิงเขาทางตะวันออกของภูเขาเฮ่อหลาน ในเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกองุ่นทำไวน์ราว 10,000 หมู่ หรือราว 4,166 ไร่


บริษัทส่งออกไวน์องุ่น ชุดที่ 1 ถึงนครหลวงเวียงจันทน์ผ่านทางรถไฟจีน-ลาว เพื่อบุกเบิกตลาดลาว เมื่อปี 2566 และขยับขยายตลาดสู่ไทยในปี 2567 โดยปริมาณการส่งออกไวน์สู่สองประเทศสูงเกิน 70,000 ขวด คิดเป็นมูลค่าเกือบ 4 ล้านหยวน (ราว 18.4 ล้านบาท) แล้ว


กระแสตอบรับจากลูกค้าดีมากและบริษัทวางแผนส่งออกไวน์โรเซ่สู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 15 ตัน ในปี 2568 เพื่อตอบสนองความนิยมไวน์ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น โดยตลาดไวน์ในภูมิภาคนี้มีอนาคตสดใสเพราะนอกจากคนท้องถิ่นแล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวจากยุโรปและสหรัฐ เป็นจำนวนมากอีกด้วย


ทั้งนี้ พื้นที่เชิงเขาทางตะวันออกของภูเขาเฮ่อหลานถือเป็น “ทำเลทอง” ในการปลูกองุ่นทำไวน์ของโลก โดยหนิงเซี่ยมีพื้นที่ปลูกองุ่นและพัฒนาไวน์รวม 602,000 หมู่ (ราว 250,000 ไร่) จนถึงสิ้นปี 2566 มีปริมาณการผลิตไวน์ 140 ล้านขวดต่อปี ส่งออกไวน์สู่กว่า 40 ประเทศและภูมิภาค และมูลค่าผลผลิตรวมสูงเกิน 40,000 ล้านหยวน (ราว 184,000 ล้านบาท)

ด้านข้อมูลสถิติจากศุลกากรอิ๋นชวนระบุว่า การส่งออกไวน์จากพื้นที่ภูเขาเฮ่อหลาน ระหว่างเดือน ม.ค.-ส.ค. 2567 คิดเป็นมูลค่า 8.31 ล้านหยวน (ราว 38 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 43.2% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี และคิดเป็นปริมาณ 77,000 ลิตร เพิ่มขึ้น 12.5% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี โดยมีตลาดหลักเป็น 15 ประเทศและภูมิภาค เช่น ไทย ลาว และฮ่องกง.

ข้อมูล : XINHUA

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES