น.ส.วงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 23–29 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ศูนย์ AOC 1441 (Anti Online Scam Operation Center) ได้มีรายงานเคสตัวอย่างอาชญากรรมออนไลน์ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการถูกหลอกลวง จำนวน 5 เคส ประกอบด้วย
คดีที่ 1 คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ มูลค่าความเสียหาย 10,430,360 บาท โดยผู้เสียหายพบโฆษณาลงทุนผ่านช่องทาง Facebook ชักชวนลงทุนเทรดหุ้นสกุลเงินต่างประเทศ ตนสนใจจึงเพิ่มเพื่อนทาง Line สอบถามรายละเอียดและสมัครสมาชิก จากนั้น มิจฉาชีพส่งลิงก์เว็บไซต์เพื่อทำการลงทุนและดึงเข้า Group Line ช่วงแรกได้ผลตอบแทน สามารถถอนเงินได้จริง ต่อมาให้ลงทุนเพิ่มมากขึ้น ภายหลังตนต้องการถอนเงินแต่มิจฉาชีพแจ้งว่าตนทำรายการผิดพลาดจะต้องโอนเงินไปเพื่อให้ทางระบบเปิดให้ทำการแก้ไข ผู้เสียหายเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 2 หลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบโทรศัพท์ เพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์ มูลค่าความเสียหาย 1,999,960 บาท โดยผู้เสียหายได้รับข้อความ SMS จากมิจฉาชีพผ่านทางโทรศัพท์ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ Flash Express แจ้งว่าสินค้าที่สั่งไว้จัดส่งไม่สำเร็จและมีลิงก์ให้เพิ่มเพื่อนผ่าน Line จากนั้นให้ ติดตั้งแอปพลิเคชันและกรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อตรวจสอบสถานะการจัดส่งพัสดุ ต่อมา ภายหลังตนจะชำระสินค้าโดยโอนเงินผ่าน Mobile Banking จึงพบว่ายอดเงินในบัญชีได้ถูกโอนเงินออกไปจนหมด ผู้เสียหายเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 3 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล หรือวัตถุประสงค์อื่นๆ มูลค่าความเสียหาย 1,999,603 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านทางโทรศัพท์ อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ Shopee แจ้งว่าผู้เสียหายเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลใหญ่ส่งท้ายปี จากนั้นเพิ่มเพื่อนทาง Line และส่งรางวัลสินค้าให้เลือก ต่อมาดึงเข้า Group Line เพื่อให้ยืนยันสิทธิและร่วมทำกิจกรรมกดติดตามเพจที่กำหนด โดยให้โอนเงินเข้าไปในระบบก่อนและจะได้รับค่าคอมมิชชันเป็นการตอบแทน ในระยะแรกได้รับผลตอบแทนจริง ผู้เสียหายจึงเพิ่มเงินลงทุนเข้าไปในระบบมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้และไม่ได้รับรางวัลสินค้า ตนเชื่อว่าถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 4 คดีหลอกลวงให้รักแล้วโอนเงิน (Romance Scam) มูลค่าความเสียหาย 1,671,000 บาท ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านช่องทาง Facebook ใช้โปรไฟล์เป็นชายหนุ่ม หน้าตาดีทำงานอยู่ต่างประเทศ และได้เพิ่มเพื่อนทาง WhatsApp พูดคุยสนทนากันจนสนิทใจแต่ยังไม่เคยพบเจอกัน จากนั้นมิจฉาชีพแจ้งว่ากำลังเดือดร้อนเนื่องจากบัญชีธนาคารถูกระงับไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว จำเป็นต้องโอนเงินไปให้เพื่อนเพื่อทำธุรกิจในประเทศไทย จึงขอร้องให้ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ก่อนและจะคืนเงินให้เมื่อบัญชีธนาคารสามารถใช้งานได้ ตนหลงเชื่อจึงโอนเงินไปหลายครั้ง ต่อมาตนเริ่มสงสัยจึงขอ VDO Call ฝ่ายชายปฏิเสธและทำการบล็อกไม่สามารถติดต่อได้อีก ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกมิจฉาชีพหลอก
และคดีที่ 5 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ มูลค่าความเสียหาย 2,460,768 บาท โดยผู้เสียหายถูกชักชวนลงทุนหารายได้พิเศษอ้างผลตอบแทนดีผ่านช่องทาง Tiktok จากนั้น เพิ่มเพื่อนทาง Line มีการส่งลิงก์ให้กรอกข้อมูลส่วนตัว และให้โอนเงินลงทุนซื้อสินค้าโดยจะได้รับค่าคอมมิชชันเป็นการตอบแทน ต่อมามิจฉาชีพแจ้งว่ามีกิจกรรมต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ให้เข้าร่วม เป็นการกดติดตามเพจที่แนะนำ หากทำตามจนครบที่กำหนดจะได้รับเงินจำนวนมาก ระยะแรกได้รับผลตอบแทนจริง ภายหลังมิจฉาชีพให้ลงทุนมากขึ้น ตนต้องการขอยกเลิกภารกิจและถอนเงินคืน มิจฉาชีพอ้างว่าต้องทำกิจกรรมให้ผ่านช่วงเทศกาลปีใหม่ก่อน จึงจะได้รับเงินทั้งหมดคืน ผู้เสียหายเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก สำหรับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้ง 5 คดี รวม 18,561,691 บาท

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของ ศูนย์ AOC 1441 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2567 มีตัวเลขสถิติผลการดำเนินงาน ดังนี้
1. สายโทรเข้า 1441 จำนวน 1,339,271 สาย / เฉลี่ยต่อวัน 3,166 สาย
2. ระงับบัญชีธนาคาร จำนวน 449,335 บัญชี / เฉลี่ยต่อวัน 1,179 บัญชี
3. ระงับบัญชีตามประเภทคดีสูงสุด 5 ประเภท ได้แก่ (1) หลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ 135,853 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 30.23 (2) หลอกลวงหารายได้พิเศษ 108,157 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 24.07 (3) หลอกลวงลงทุน 66,246 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 14.74 (4) หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล 40,932 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 9.11 (5) หลอกลวงให้กู้เงิน 34,237 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 7.62 (และคดีอื่นๆ 63,910 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 14.23)
“จากเคสตัวอย่างจะเห็นได้ว่า มิจฉาชีพใช้วิธีการต่างๆ หลอกลวงผู้เสียหาย ทั้งการหลอกให้ลงทุนชวนเทรดหุ้น-ซื้อสินค้า อ้างได้ผลตอบแทนดี หรือได้รับของรางวัล ผ่านช่องทาง Facebook, TikTok, Line รวมทั้งหลอกให้รัก ก่อนติดตั้งแอปดูดเงิน ทั้งนี้ขอย้ำว่า กรณีการร่วมลงทุนผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ หรือถูกอ้างว่ามีได้รับรางวัลโดยไม่มีการรับรองโดยหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นการเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง ขอให้ผู้เสียหายตรวจสอบติดต่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามรายละเอียดให้แน่ชัด หรือติดต่อผ่านทางสายด่วน AOC 1441 เพื่อยืนยันตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนที่จะมีการดำเนินการใดๆ และความปลอดภัยต่อการถูกหลอกลวง ดังนั้นขอให้สอบถามรายละเอียดให้แน่ชัดก่อนให้ข้อมูลส่วนบุคคล และทำการเพิ่มเพื่อนหรือดำเนินการใดๆ ในโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ควรตรวจสอบการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ควรติดต่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามรายละเอียดให้แน่ชัด หรือติดต่อผ่านทางสายด่วน AOC 1441 เพื่อยืนยันตรวจสอบข้อเท็จจริง” น.ส.วงศ์อะเคื้อ กล่าว