สำนักข่าวต่างประเทศรายงานประสบการณ์สุดแปลกของ อัลเทีย ไบรเดน ผู้ป่วยวัย 58 ปี เธอเกษียณอายุจากการทำงานแล้วและพักอาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ร่วมกับ วินสตัน สามีวัย 63 ปีของเธอซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลเธออย่างเต็มเวลาด้วย
หลังจากล้มป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2567 ไบรเดนก็พูดไม่ได้ ร่างกายท่อนบนของเธอไร้ความรู้สึกเป็นเวลานานราว 3 เดือนเนื่องจากพบพังผืดที่หลอดเลือดแดงคาโรติดในช่วงลำคอของเธอ ซึ่งคาดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอมีอาการของโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันด้วย
ไบรเดนต้องเข้ารับการผ่าตัดในเดือน ส.ค. 2567 เพื่อกำจัดเนื้อเยื่อพังผืดออกไป และเมื่อเธอกลับมาพูดได้อีกครั้ง เธอก็พบว่าตนเองพูดด้วยสำเนียงของชาวอิตาลีอย่างชัดเจน ทั้งที่เธอไม่เคยไปประเทศนี้เลย
ไบรเดนยอมรับว่าสำเนียงใหม่ของเธอทำให้เธอเผลอพูดภาษาอิตาลีและแสดงกิริยาแบบคนอิตาลีออกมาด้วย คำพูดติดปากใหม่ ๆ ของเธอ ได้แก่ “มัมมา มิยา” (mamma mia), “บัมบิโน” (bambino) และ “ซิ” (si) ซึ่งล้วนเป็นคำอุทานและตอบรับของชาวอิตาลี

หญิงสูงวัยยังเล่าว่า สำเนียงการพูดของเธอเปลี่ยนไปแบบกะทันหัน ตอนที่เธอพูดสำเนียงอิตาลีเป็นครั้งแรกทั้งเธอและนางพยาบาลต่างก็แสดงความรู้สึกช็อกพอ ๆ กัน ไบรเดนกล่าวว่า ในตอนแรกเธอแทบไม่เชื่อว่าตัวเองกำลังพูดด้วยสำเนียงแบบนั้น เธอจำเสียงตัวเองไม่ได้ ส่วนนางพยาบาลก็รีบวิ่งไปหาเพื่อนร่วมงานมาช่วยดูอาการของเธอ แต่ยิ่งเธอพูดมากเท่าไหร่ ทุกคนก็ยิ่งมีท่าทางสับสน
ทีมแพทย์ถามไบรเดนว่า เธอเคยพูดสำเนียงอิตาลีมาก่อนที่จะเกิดอาการสโตรก (โรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน) หรือไม่ และบอกเธอว่า สำเนียงของเธอนั้นเป็นสำเนียงแบบคนอิตาลีที่ชัดเจนมาก
แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายวันและสำเนียงพูดแปลก ๆ ก็ยังไม่หายไป ไบรเดนรู้สึกเหมือนเธอไม่สามารถควบคุมเสียงตัวเองได้
“แพทย์และพยาบาลมองว่าฉันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางการแพทย์ พยาบาล แพทย์ นักบำบัด หรือศัลยแพทย์ไม่มีใครเคยรับมือกับโรค “ติดสำเนียงต่างชาติ” มาก่อนเลยตลอดอาชีพการงานของพวกเขา!” ไบรเดนกล่าว “ตอนนั้นเองที่ฉันรู้ว่าโรคนี้หายากแค่ไหน ฉันหวังว่าจะมีคนรู้เรื่องนี้มากขึ้น”
ไบรเดนกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ แม้ต้นตระกูลของเธอจะมาจากจาเมกาและสำเนียงพูดของเธอจะไม่ได้เป๊ะแบบสำเนียงผู้ดีอังกฤษแท้ แต่ก็ฟังเหมือนคนอังกฤษแน่นอน
หลังจากไปพบนักบำบัดทางการพูดและภาษา ทีมบำบัดเชื่อว่าเธอมีอาการผิดปกติที่หายาก ส่งผลให้มีสำเนียงพูดต่างไปจากเดิม โรคนี้มีชื่อว่า โรคสำเนียงต่างชาติเฉียบพลัน (Foreign accent syndrome) ซึ่งเป็นผลมาจากสมองที่ได้รับความเสียหายจากสาเหตุบางอย่าง เช่น โรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน
ระหว่างที่รอคำวินิจฉัยโรคอย่างเป็นทางการนี้ ไบรเดนก็รู้สึกเหมือนเธอกำลังสูญเสียตัวเองไปเรื่อย ๆ เธอเล่าว่า แม้กระทั่งเสียงหัวเราะก็ยังฟังไม่เหมือนเสียงหัวเราะของเธอคนเก่า มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก ทุกอย่างดูแปลกไปหมด แม้กระทั่งภาษากายของเธอก็เปลี่ยนไปจนทำให้เธอไม่รู้อีกต่อไปว่าเธอเป็นใครกันแน่
นอกจากนี้ ไบรเดนยังได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะอะเฟเซีย หรือภาวะสูญเสียการสื่อสารทางภาษา ซึ่งทำให้บุคคลบกพร่องในการพูดหรือใช้ภาษา
“สมองของฉันไม่สามารถเข้าใจสิ่งนี้–มันน่ากลัวมาก ฉันรู้สึกกลัวและสับสนจริง ๆ” ไบรเดนกล่าว
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES