จากรณี น.ส.เอ อายุ 42 ปี ชาว จ.สุรินทร์ แจ้งความว่าลูกสาว อายุ 19 ปี ถูก นายหนุ่ม อายุ 36 ปี คนขับรถตู้โดยสารข่มขืนในบ้านพักของนายหนุ่ม เหตุเกิดวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากลูกสาวได้ใช้บริการรถตู้ที่นายหนุ่มขับ รับมาจากกรุงเทพฯ เพื่อกลับบ้านที่ อ.พนมดงรัก มีผู้โดยสารที่มากับรถตู้หลายคน ซึ่งแต่ละคนก็ได้ลงรถตามจุดหมายและพอมาถึงเขต อ.พนมดงรัก คนขับออกอุบายวนส่งคนอื่นลงก่อนจนเหลือลูกสาวเป็นคนสุดท้าย ก่อนจะพาไปที่บ้านพัก และใช้กำลังฉุดกระชากลากตัวน้องลงจากรถตู้เข้าบ้าน น้องได้ขัดขืนจึงถูกชกเข้าที่ท้องและถูกลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ มีการถ่ายรูปไว้ด้วยเพื่อแบล็กเมล์พร้อมข่มขู่ ไม่อย่างนั้นจะนำรูปถ่ายไปโพสต์ประจาน รวมถึงมีการขู่ตามฆ่าด้วย ซึ่งได้ไปแจ้งความที่ สภ.พนมดงรัก แต่เรื่องยังเงียบและไม่ได้รับการประสานงานจากตำรวจ แถมคนก่อเหตุก็ยังลอยนวลและยังโพสต์ในเฟซบุ๊กเยาะเย้ยด้วย
เหยื่อสาววัย 19 ปี โร่แจ้งจับโชเฟอร์รถตู้โดยสารหื่น บังคับข่มขื่นแถมถ่ายภาพแบล็คเมล์
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 ได้บินด่วนลงพื้นที่มาตรวจสอบเหตุดังกล่าว และสั่งการให้ตำรวจเข้าควบคุมตัว นายหนุ่ม ผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยที่ผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยจับกุมได้ในพื้นที่ ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก พร้อมด้วยรถตู้โตโยต้า สีขาว ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ อ้างว่า เป็นการยินยอมกันทั้ง 2 ฝ่าย
พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวว่า ถือว่าตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวดเร็ว ไม่ล่าช้าจนผู้ต้องหาหนีไปได้ ก็ต้องขอชื่นชมชุดจับกุม ซึ่งคดีนี้ทางตำรวจจะดำเนินคดีอย่างเต็มที่เพื่อคืนความเป็นธรรมให้ผู้เสียหาย ทั้งนี้ฝากเตือนภัยสำหรับผู้ที่ใช้รถโดยสาร ต้องระมัดระวังตัวเองให้ดี อย่าไว้ใจใคร หากรู้สึกไม่สบายใจหรือเห็นท่าไม่ดีให้รีบติดต่อ 191 เพื่อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รีบเข้าไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที