เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 30 ธ.ค. 67 ร.ต.อ.สามารถ รักษาศักดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุชายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธมีดไล่แทงมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดภายในสนามเปตองบึงพระราม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ ไปให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อ นายบุญเหลือ ด่านทอง อายุ 45 ปี ถูกแทงเข้าที่บริเวณราวนม เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาล ก่อนนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ยังพบมีดปอกผลไม้เปื้อนเลือดตกอยู่ 1 เล่ม

สอบถามนายวิสิทธิ์ ยาสดม อายุ 61 ปี รปภ.สนามเปตอง เล่าว่า ผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ดูแลสนามเปตองที่เกิดเหตุอยู่ด้วยกัน ระหว่างนั้น มีนายเค อายุ 33 ปี ผู้ก่อเหตุ ซึ่งทำงานเป็น รปภ. ด้วยกันได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอด แล้วตรงเข้ามาใช้อาวุธมีดแทงผู้บาดเจ็บ ทีแรกตนเองคิดว่าเล่นกัน แต่เห็นผู้บาดเจ็บวิ่งหนีร้องขอความช่วยเหลือ ผู้ก่อเหตุก็วิ่งตามจะแทงซ้ำอีก แต่วิ่งไล่ตามไม่ทัน และใช้ลูกเปตองปาใส่ จากนั้นหันมาเห็นตน ก็ตรงปรี่เข้ามาจะใช้อาวุธมีดแทง จึงวิ่งหลบหนีเอาชีวิตรอด ก่อนผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือเพื่อนที่ถูกแทงบาดเจ็บ
สาเหตุนั้นตนเองไม่ทราบว่าเรื่องอะไร ทราบเพียงว่าผู้ก่อเหตุนั้น เกิดอาการคลุ้มคลั่ง และมีพฤติกรรมเสพยา นอกจากนี้ก่อนที่จะมาก่อเหตุแทงเพื่อนร่วมงาน ผู้ก่อเหตุยังได้ใช้อาวุธมีดแทง นายอำนาจ ดีนิสสัย ซึ่งเป็นหัวหน้า รปภ. ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่บริเวณบึงพระราม ห่างจากจุดที่ตนอยู่ประมาณ 1 กิโลเมตร ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้าแล้ว

สอบถาม นายวัฒนา เทพไทย อายุ 64 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ. อีกคน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เข้าเวรดูแลบริเวณบึงพระราม อยู่กับหัวหน้า รปภ. ที่บาดเจ็บ นายเค ผู้ก่อเหตุ ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอด เดินตรงเข้าไปหาหัวหน้า รปภ. แล้วชักอาวุธมีดแทงหัวหน้ารปภ. 1 ครั้ง แล้วเดินตรงมายกมือไหว้ตน แล้วไปหาสุนัขที่เลี้ยงเอาไว้ใช้มือลูบหัวก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์ออกไป ช่วงเวลานั้นตกใจมากทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมถึงมาก่อเหตุ

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนพยานที่เป็นเจ้าหน้าที่ รปภ. และสอบสวน นายบุญเหลือ ในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยผู้บาดเจ็บและผู้ก่อเหตุไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน จึงยังไม่ทราบว่าสาเหตุที่มาก่อเหตุเพราะอะไร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป.