เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งประชาชนมีการเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวจำนวนมาก ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ได้แก่ ครอบครัว เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และคนพิการ ให้มีความรู้สึกผ่อนคลาย ปลอดภัยระหว่างการร่วมเดินทางกลับภูมิลำเนา ท่องเที่ยวต่างจังหวัด พม.จังหวัด (พมจ.) ที่มีที่ตั้งอยู่บริเวณถนนสายหลัก และถนนสายรอง จึงได้เปิดพื้นที่หน่วยงานเป็นจุดบริการประชาชน ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 2567 ถึง 5 ม.ค. 2568 โดยให้บริการจุดพักรถ ห้องน้ำคนพิการ ผู้สูงอายุ และประชาขนทั่วไป มุมพักผ่อน น้ำดื่ม กาแฟ อาหารว่าง และให้คำแนะนำปรึกษาด้านสิทธิสวัสดิการสังคม และขอให้ทุกๆ คนเดินทางโดยสวัสดิภาพ ขับรถด้วยความระมัดระวัง ปลอดภัย ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ขออย่าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างเดินทาง เมาไม่ขับ และง่วงไม่ขับ หากมีปัญหาโทรฯ สายด่วน พม. 1300 บริการฟรี 24 ชั่วโมง
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า สำหรับจุดบริการประชาชน ดังนี้ 1.ภาคเหนือ ได้แก่ ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการหยาดฝน จังหวัดเชียงใหม่ (ถนนสายเขื่อนแม่งัด), บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ สุโขทัย แพร่ ลำปาง ลำพูน และกำแพงเพชร, สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านเชียงใหม่, ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวจังหวัดเชียงราย ลำปาง และลำพูน, สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านสองแคว จังหวัดพิษณุโลก, ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดน่านและแพร่, สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งวังทอง จังหวัดพิษณุโลก, สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งสันมหาพล จังหวัดเชียงใหม่, นิคมสร้างตนเองเขื่อนภูมิพล จังหวัดเชียงใหม่, นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน จังหวัดอุตรดิตถ์, ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์ จังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการผู้สูงอายุจังหวัดลำปาง และศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดน่าน
2.ภาคกลาง ได้แก่ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านกึ่งวิถี (ชาย) จังหวัดปทุมธานี (ถนนรังสิต-นครนายก), ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการบ้านโมกุล เฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ จังหวัดลพบุรี (อำเภอชัยบาดาล), บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสระบุรี สิงห์บุรี และสุพรรณบุรี, ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี, สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ กทม. และศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชัยนาท นครปฐม และอุทัยธานี และ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนเวศม์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3. ภาคตะวันตก ได้แก่ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการจังหวัดราชบุรี (อำเภอเมือง) และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดราชบุรี

4. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการ บ้านทองพูนเผ่าพนัส อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี, ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย, บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนม ขอนแก่น บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ ยโสธร ศรีสะเกษ อุดรธานี อำนาจเจริญ และนครราชสีมา, ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น และศรีสะเกษ, สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์ จังหวัดนครราชสีมา, ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดมุกดาหาร และชัยภูมิ, สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งปรือใหญ่ จังหวัดศรีสะเกษ, นิคมสร้างตนเองปราสาท จังหวัดสุรินทร์ และ นิคมสร้างตนเองโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
5. ภาคใต้ ได้แก่ ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช, บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา ยะลา ภูเก็ต กระบี่ สตูล ปัตตานี ชุมพร พัทลุง และนราธิวาส, ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสติและครอบครัวภาคใต้ จังหวัดสงขลา, สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี, ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราช ยะลา และสตูล, สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และนครศรีธรรมราช นิคมสร้างตนเองรัตภูมิ จังหวัดสงขลา และ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านทักษิณ จังหวัดยะลา
6. ภาคตะวันออก ได้แก่ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการการุณยเวศม์ จังหวัดชลบุรี (ถนนสุขุมวิท), บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี ตราด ระยอง และปราจีนบุรี และ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี.