กรณี ตำรวจ บก.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดจันทบุรี เข้าค้นบ้าน เอ็ม เอกชาติ มีพร้อม ในพื้นที่ ต.ห้วยสะท้อน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เจ้าภาพงานปาร์ตี้เปิดร้านเกษตร ที่ แบงค์ เลสเตอร์ เสียชีวิต ยึดปืน โทรศัพท์ ซิมการ์ด ตรวจสอบ ก่อนทำการจับกุมตัว นายเอ็ม อภิชาติ เมื่อช่วงเช้าตรู่ วันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับและจับกุมตัวมาสอบสวนทันที ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ด่วนที่สุด! ตำรวจหิ้วหมายจับบุกรวบ ‘เอ็ม เอกชาติ’ เซ่นคดี ‘แบงค์ เลสเตอร์’

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ที่ศาลจังหวัดจันทบุรี พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งเบญจา จ.จันทบุรี คุมตัวนายเอกชาติ หรือเอ็ม มีพร้อม อายุ 32 ปี ผู้ต้องหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ไปยื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วัน โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ก่อนเกิดเหตุในคดีนี้ น.ส.XXX มารดาของนายเอกชาติ ได้จัดเลี้ยงงานวันเกิดและเปิดตัวร้านขายปุ๋ยและเคมีการเกษตรชื่อร้านออมสินการเกษตร ซึ่งในงานเลี้ยงวันเวลาดังกล่าว ช่วงค่ำได้มีคนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก และได้มี นายธนาคาร คันธี หรือ แบงค์ เลสเตอร์ ได้มาร่วมงานเลี้ยงในวันเวลาดังกล่าวด้วย

ต่อมาวันที่ 25 ธ.ค. 2567 เวลาประมาณ 23.00 น. นายธนาคาร ซึ่งเป็นคนพิการทางสมองตั้งแต่เกิด และอยู่ในอาการมึนเมาสุรา ได้เดินมาพบ นายเอกชาติ จึงท้าทายและยุยงให้ นายธนาคาร ดื่มสุราXXX ชนิดแบน (350 มิลลิลิตร/แบน) ถ้าหาก นายธนาคาร ดื่มหมดแบนจะให้เงิน นายธนาคาร แบนละ 1 หมื่นบาท นายธนาคาร ตกลงจึงได้ดื่มสุราXXX ไปจำนวน 2 แบน อย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในเวลาประมาณ 10-20 นาที ต่อมานายธนาคารมีอาการแอลกอฮอล์เป็นพิษหมดสติ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ในคดีนี้ มีพยานหลักฐานเพียงพอ อันเชื่อได้ว่า นายธนาคาร เสียชีวิตหัวใจวายเฉียบพลันเนื่องจากท่านได้ยุยงส่งเสริมให้นายธนาคาร ซึ่งอยู่ในอาการเมาสุรามาก่อนแล้วและเป็นคนพิการทางสมอง ดื่มสุราในปริมาณมากจนเกิดอาการมึนเมาและเสียชีวิต การกระทำของท่านเป็นความผิด ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

เหตุเกิดที่ ร้านออมสินการเกษตร ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 49 วรรค 4, 249 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีเหตุอันเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เชื่อว่าผู้ต้องหาจะหนี พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาและประวัติต้องโทษของผู้ต้องหา จึงขออนุญาตฝากขังผู้ต้องหาระหว่างการสอบสวน มีกำหนด 12 วัน ในกรณีผู้ต้องหาขอให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ร้องขอคัดค้าน เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหนี

โดยศาลพิจารณาคำร้องฝากขังแล้ว มีคำสั่งอนุญาตรับฝากขัง จากนั้นนายเอกชาติ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง ศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์แล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์ร้ายแรง ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราวในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง