สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ว่า ประธานาธิบดีฟรังก์ วอลเทอร์-ชไตน์ไมเออร์ แถลงเรื่องยุบสภาผู้แทนราษฎรของเยอรมนี และกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ คือวันที่ 23 ก.พ. 2568 เกิดขึ้นก่อนกำหนด ที่ตามปกติต้องเป็นเดือน ก.ย.


ทั้งนี้ ชไตน์ไมเออร์ เน้นย้ำว่า เยอรมนีต้องการ “การเมืองที่มีเสถียรภาพ” และขอให้พรรคการเมืองทุกพรรค หาเสียง “ด้วยความเหมาะสมและให้เกียรติซึ่งกันและกัน” พร้อมทั้งขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันสอดส่อง และเฝ้าระวังการแทกแซง “จากบุคคลภายนอก” และเตือนว่า ความท้าทายที่รัฐบาลเยอรมนีชุดใหม่ต้องเผชิญ มีทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง ที่เกี่ยวข้องกับทั้งสงครามในยูเครนและตะวันออกกลาง


ความเคลื่อนไหวของชไตน์ไมเออร์เกิดขึ้น หลังสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนี มีมติเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา ไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ซึ่งสื่อท้องถิ่นเยอรมนีล้วนเรียกการลงมติไม่ไว้วางใจครั้งนี้ว่า “การพลีชีพทางการเมือง” ของโชลซ์ เพื่อหาทางลงให้กับรัฐบาลของตัวเอง ที่กลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย หลังผู้นำเยอรมนีปลดนายคริสเตียน ลินด์เนอร์ ออกจากตำแหน่ง รมว.การคลัง เมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา จากข้อพิพาทเรื่องการจัดทำงบประมาณฉบับใหม่ ที่ทำให้รัฐบาลผสมถึงขั้นแตกหัก


นอกจากนี้ อีกหนึ่งความท้าทายทางการเมืองของทุกฝ่าย คือการที่พรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (เอเอฟดี) ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์มองว่า พรรคเอเอฟดียังไม่น่าได้รับการเลือกตั้งมากที่สุด แต่ยิ่งพรรคเอเอฟดีได้รับการเลือกตั้งมากเท่าไหร่ การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ยิ่งยากลำบากมากขึ้นเท่านั้น.

เครดิตภาพ : AFP