เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 67 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รับหนังสือร้องเรียนจากสภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค) นำโดยนางกนกวรรณ ด้วงเงิน ประธานโซนกรุงเทพฯ เหนือ พร้อมคณะศูนย์สิทธิผู้บริโภค จากเขตหลักสี่ จตุจักร ดอนเมือง สายไหม บางเขน และลาดพร้าว ได้ยื่นหนังสือ 3 ฉบับ อาทิ ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. …., ร่างพ.ร.บ.อาหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …, และร่างพ.ร.บ.ความรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า พ.ศ. … ทั้ง 3 ร่างประกอบด้วยหลักการและเหตุผล และบันทึกวิเคราะห์สรุปสาระสำคัญ

โดยนางกนกวรรณ กล่าวว่า การมายื่นหนังสือในครั้งนี้ต้องการให้ สส.พรรคภูมิใจไทย ได้ผลักดันในร่างพ.ร.บ. 3 ฉบับนี้ เพื่อที่ประชาชนจะได้มีกฎหมายให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหาของผู้บริโภคในปัจจุบัน และเพื่อยกระดับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคของประเทศ ดังนี้ 1. ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. … ต้องการให้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา เพิ่มความคุ้มครองผู้บริโภคที่เกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ ปรับปรุงกฎหมายให้สิทธิในการศึกษาของผู้บริโภค และการบริโภคอย่างยั่งยืนให้มีความชัดเจนมากขึ้น ตลอดจนแก้ไขเพิ่มเติมกลไกการตัดสินชี้ขาดและบทลงโทษ เพื่อให้การคุ้มครองผู้บริโภคของประเทศไทยมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นางกนกวรรณ กล่าวว่า 2.ร่างพ.ร.บ.อาหาร (ฉบับที่ …) พ.ศ. … เสนอแก้ไขเพิ่มเติมมาตรการควบคุมอาหารโดยกำหนดระดับความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหรือผลกระทบต่อผู้บริโภค แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการพิจารณาอนุญาตอาหาร และการโฆษณาอาหาร กำหนดให้มีผู้เชี่ยวชาญทำหน้าที่ในกระบวนการพิจารณาอนุญาตอาหาร กำหนดหน้าที่ของผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอาหารให้รับผิดชอบต่อผู้บริโภค ตลอดจนแก้ไขบทกำหนดโทษ และอัตราค่าธรรมเนียมให้เหมาะสม และ 3.ร่างพ.ร.บ.ความรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า พ.ศ. … ด้วยปัญหาซื้อสินค้าใหม่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน มีความชำรุดบกพร่อง ใช้งานไม่ได้ ผู้ประกอบธุรกิจไม่ดูแลรับผิดชอบอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะกับสินค้าที่มีเทคโนโลยีซับซ้อน จนผู้ซื้อไม่สามารถพบเห็นความชำรุดบกพร่องของสินค้าได้ทันทีในเวลาซื้อขายหรือส่งมอบ จึงเสนอให้ออกกฎหมายความรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้าเป็นการเฉพาะ กำหนดหลักเกณฑ์ความรับผิดชอบของผู้ขาย และผู้ประกอบธุรกิจอย่างเหมาะสม กำหนดสิทธิของผู้ซื้อหรือผู้บริโภคให้ชัดเจน เพื่อให้การคุ้มครองผู้บริโภคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ด้านนายสิริพงศ์  กล่าวภายหลังการรับหนังสือ ว่า สำหรับหนังสือทั้ง 3 ฉบับนี้ ที่ตนรับไว้ อาจจะนำมาทำเป็นร่างของทางพรรคภูมิใจไทย โดยจะให้ทางฝ่ายกฎหมายของพรรคเป็นผู้พิจารณา หากจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขจะทำเป็นร่างประกบเข้าไป และนำไปยื่นที่สภา เพื่อพิจารณาร่วมกัน.