จากกรณีญาติบ้านติดกัน มีปัญหาเรื่องสร้างรั้วล้ำเขตบ้าน มีการชกต่อย ลุกลามถึงขั้นน้องชายเอาปืนมายิงพี่สาว และสะใภ้ของพี่สาว เสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดในพื้นที่ ต.วังอิทก อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จนกลายเป็นเหตุสลดที่ถูกพูดถึง เนื่องจากผู้เสียชีวิตถูกยิงต่อหน้าลูกน้อยวัยขวบเศษ และได้มีการอัดคลิปสั่งเสียไว้ นั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. 67 พ.ต.อ.สมเกษม จารักษ์ ผกก.สภ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พร้อมด้วย ร.ต.อ.พงษ์ศิริ อำไพรพิศ พนักงานสอบสวน สภ.บางระกำ และชุดสืบสวน ได้ทำการควบคุมตัวนางสำราญ จันทาทับ และ นายไกรสร จันทาทับ ภรรยาและลูกชายของ นายยศ จันทาทับ มือยิง ตามหมายจับของจังหวัดพิษณุโลก ที่ 693-694 /2567 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน โดยสามารถจับกุมได้ภายในบ้านของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายมาทำการสอบปากคำ เบื้องต้นนางสำราญ และนายไกรสร ยังให้การปฏิเสธ

โดยระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว นายยศ มาทำการสอบสวน ผู้สื่อข่าวได้ถามว่าในระหว่างเกิดเหตุเมียของลุง ได้เป็นคนส่งปีนให้มาก่อเหตุหรือไม่ นายยศ บอกว่า ปืนผมเอง ผมไปเอามาเอง ซึ่งมีเรื่องตอนแรก เมียผมก็เอาปืนไปซ่อน กลัวว่าผมจะเอาไปยิงเขา ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลไหมที่ลูกเมียเรา โดนคดีไปด้วย นายยศ บอกว่า เมียผมไม่รู้เรื่อง ขณะนั้นนางสำราญและนายไกรสร เดินตามมาด้วย ก็บอกว่า แม่ไม่ได้ทำ แม่ไม่ได้ส่งปืนตามข่าว

พ.ต.อ.สมเกษม กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนและจับกุมเพิ่มเติม เนื่องจากในคลิปที่เกิดเหตุระบุชัดเจนว่าพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุมีคนทำอะไรบ้าง หลังเกิดเหตุนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกอย่าง และรอผลชันสูตรพลิกศพว่านางจิตตานันท์ สุวรรณรัฐ ผู้ตาย ว่าสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ แต่เมื่อผลออกมาว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืน หลังจากนั้นก็ได้ตรวจสอบคลิปอย่างละเอียด ก็ถึงขออนุมัติขอศาลออกหมายจับเมียและลูกชาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายยศ รับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว ผกก.สภ.บางระกำ ระบุว่า เราจับหมดในวันเกิดเหตุ และในช่วงค่ำนายศุภวัช หรือ เอก ก็ได้นำคลิปมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบกับผลชันสูตรพลิกศพออกมา ก็เลยรวบรวมหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับ

ด้านนางสาวปรารถนา จันทาทับ อายุ 33 ปี ลูกสาวนายยศ กล่าวว่า ตอนนั้นนายศุภวัช หรือ เอก กำลังต่อยกันกับนายไกรสร พี่ชายตน พ่อกับแม่ก็อยู่ตรงนั้น จากนั้นป้าก็ถือค้อนมา แล้วก็บอกว่าให้ต่อยกันตัวต่อตัว แต่ดูเหมือนป้าจะเอาค้อนไปช่วย ตนก็ห้ามไว้ ก็จับตัวป้าไว้ ป้าก็บอกว่าให้ปล่อยตัวเขา ตนก็บอกว่า ไม่ได้หรอกป้า เพราะป้าถือค้อนอยู่ ปล่อยเขาให้ต่อยกัน จากนั้นก็ต่อยกันอีก ระหว่างที่พ่อเดินเข้ามาด้านหลัง ตนเองก็ไม่เห็น และยิงป้าจนล้มไป ตอนนั้นก็ไม่รู้เลยว่าป้าโดนยิง แต่เมื่อเห็นป้าล้มลง ตนเองตกใจกรี๊ดเลย พี่ชายก็เดินมาอยู่ข้างๆ ก็ร้องไห้กัน ส่วนพ่อหลังยิงป้าเสร็จ ก็วิ่งผ่านตนไปเลย คิดว่าจะไปยิงนายเอกด้วย ส่วนนางกิ่ง พี่สะใภ้ผู้เสียชีวิตอีกคนนั้น ตอนนั้นตนเองก็เห็นว่าอยู่ในรถอยู่ และมีเบิ้ลรถด้วย ตอนนั้นเห็นหลานอยู่ด้วยแต่ไม่เห็นกิ่ง เพราะฟิล์มรถมืด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาได้คุยกับพ่อบ้างไหม นางสาวปรารถนา บอกว่า ไม่ได้คุยกันเลย หลังเกิดเหตุพ่อเงียบมาก จากคนที่เคยใจร้อนโวยวายเป็นปกติของเขา แม่ก็ร้องไห้ทั้งวัน หนูขอโทษแทนพ่อหนูด้วย ไม่อยากให้เกิดเรื่องนี้เลย แม่กับพี่ชายหนูก็ไม่ส่วนเกี่ยวข้องที่อยากให้ป้าและพี่สะใภ้เสียชีวิต ไม่มีเจตนาที่จะฆ่าอะไร มีแต่แม่บอกว่าให้ไปเอารถมาเพื่อจะไปแจ้งให้กับผู้ใหญ่บ้านมาช่วย ส่วนปัญหาพ่อกับนางชวันรัตน์ พี่สะใภ้ผู้เสียชีวิตอีกคนนั้น น่าจะเกิดขึ้นมานานแล้วเหมือนกัน เนื่องจากพี่สะใภ้มีโครงการปลูกบ้านที่อยู่ติดกันอีกฝั่ง ทำให้กลายเป็นความขัดแย้งเถียงกันมาเหมือนกัน โดยก่อนเกิดเหตุพี่สะใภ้ จะล้อมรั้วไว้เพื่อเป็นที่จอดรถ ทำให้ในวันนั้นพ่อมีปากเสียงกับพี่เอก และพี่สะใภ้ กัน จนไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงถึงขนาดนี้ ตั้งแต่มีเรื่องที่ผ่านมาบ้านตนไม่กล้าเข้าไปอยู่แต่อย่างใด ไม่ได้กินอยู่นอนหลับสบาย หาที่นอนแถวๆ นี้ไปก่อนหรือไปนอนบ้านญาติ

อย่างไรก็ตาม วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ฝากขังนายยศ เป็นคนแรก ส่วนนางสำราญ และนายไกรสร ผู้เป็นเมียและลูกชาย ยังต้องสอบสวนอยู่ก่อน เนื่องจากเพิ่งขออนุมัติหมายจับ.